Thai / English

พิษค่าแรงป่วนหนัก"ไปรษณีย์ไทย" แก้ไม่ตก-ขาดแรงงานส่ง"จม.-พัสดุ"ช้าหลายพื้นที่



10 .. 56
เครือมติชน

พิษค่าแรงป่วน "ไปรษณีย์ไทย" มึนตึ้บโดนแย่งพนักงานนำส่งและคัดแยก ทั้ง "จดหมาย-พัสดุภัณฑ์" ลูกค้าบ่นอุบบริการล่าช้า ย่านท่องเที่ยว-เขตอุตสาหกรรมอาการหนัก ขณะที่ทางแก้ปัญหายังไร้บทสรุป เหตุฝ่ายบริหารเห็นไม่ตรงกัน หวั่นถ้าอัพเกรดลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานประจำสร้างแรงจูงใจอาจกระทบค่าใช้จ่ายองค์กรระยะยาว

นายปิยวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานระบบปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาประชาชนผู้ใช้บริการร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากในขณะนี้ กรณีได้รับจดหมายและพัสดุล่าช้ามาจาก 2 สาเหตุหลัก สาเหตุแรก เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลางจากการที่บริษัทตั้งศูนย์ไปรษณีย์ใหม่เพิ่ม 2 แห่ง ในจังหวัดราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อกลางเดือน มิ.ย.

ที่ผ่านมา ทำให้ระบบงานต่าง ๆ ไม่เข้าที่ เนื่องจากทุกอย่างใหม่หมดตั้งแต่พนักงาน, สถานที่ และอุปกรณ์ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในไม่เกินหนึ่งสัปดาห์

อีกสาเหตุมาจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก และพื้นที่ที่ธุรกิจท่องเที่ยวเฟื่องฟู อาทิ ภูเก็ต ระยอง ปทุมธานี เขตรอบนอกกรุงเทพฯ เช่น บางพลี มีนบุรี ราษฎร์บูรณะ ตลิ่งชัน เป็นต้น ทำให้มีการแย่งแรงงานเกิดขึ้น ประกอบกับเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา มีพนักงานไปรษณีย์ไทยเกษียณก่อนกำหนด (เออร์รี่รีไทร์) จำนวน 336 คน ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงระดับบริหาร ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนพนักงานมากขึ้นด้วย

"ค่าแรงภาครัฐให้ได้แค่ 300 บาทต่อวัน แต่กว่าจะฝึกให้คล่องต้องใช้เวลาเป็นเดือน และเมื่อทำไปสักพักโดนชวนไปทำโรงงานหรือโรงแรมที่ให้ค่าแรงได้สูงกว่า ทำให้เราขาดคน พอรับเข้ามาใหม่ก็เป็นแบบนี้อีก ช่วงรอยต่อที่ต้องฝึกคนใหม่มีผลกับการนำจ่ายไปรษณีย์ภัณฑ์ จากเดิมนำส่งได้ 1,000 ชิ้น ก็เหลือแค่ 600 ชิ้นเท่านั้น ปัญหานี้เริ่มเห็นชัดขึ้นตั้งแต่หลังวิกฤตน้ำท่วมเป็นต้นมา ต่างจากในอดีตที่ลูกจ้างจะอยู่กันยาว ๆ"

นายปิยวัฒน์กล่าวต่อว่า ทางแก้ไขในขณะนี้ นอกจากให้พนักงานระดับหัวหน้างานและฝ่ายบุคคลลงมาช่วยแล้ว ยังพยายามผลักดันให้มีการเพิ่มกรอบอัตรากำลัง เพื่อให้กลุ่มลูกจ้างที่ทำงานครบ 3 ปีมีโอกาสบรรจุเป็นลูกจ้างประจำซึ่งมีสวัสดิการมั่นคงกว่า เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น และแก้ปัญหาเรื่องการโดนดึงตัวจากภาคอุตสาหกรรมอื่น

"แม้เราจะมีโรงเรียนไปรษณีย์ที่ผลิตบุคลากรให้ปีละราว 100 คน แต่ส่วนใหญ่จบมาจะทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รับฝากหน้าเคาน์เตอร์ และผลิตเพื่อทดแทนพนักงานที่เกษียณอายุแต่ละปี ขณะที่จุดที่ขาดแคลนแรงงานเป็นพนักงานคัดแยกและนำจ่ายที่ต้องทำงานท่ามกลางความร้อน และต้องไว้ใจได้ โดยต้องมีการดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคุณภาพบริการ ซึ่งปัญหาการเพิ่มอัตรากำลังฝ่ายบริหารยังมองไม่ตรงกัน บางส่วนมองว่าทำให้มีค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ แต่ยืนยันได้ว่าเรากำลังพยายามแก้ปัญหากันนี้อยู่"

สำหรับปัญหาไปรษณีย์ภัณฑ์สูญหายระหว่างนำส่ง เนื่องจากมีพนักงานกว่า 10,000 คน อาจรั่วไหลได้ง่าย บริษัทจึงเพิ่มกล้องวงจรปิด รวมถึงในกระบวนการคัดแยกมีการแบ่งทีมทำงานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6-7 คน ทั้งให้มีหัวหน้างานคอยกำกับดูแลแต่ละกลุ่มใกล้ชิด และมีการสุ่มตรวจตลอดเวลา ถ้าพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือไม่พึงพอใจบริการแจ้งข้อมูลเข้ามายังบริษัทได้

ปัจจุบัน ไปรษณีย์ไทยมีพนักงานนำจ่ายจดหมายและพัสดุทั่วประเทศ 11,000 คน เป็นลูกจ้างชั่วคราว 20% ที่เหลือเป็นลูกจ้างประจำและพนักงานบริษัท มีพนักงานทำหน้าที่คัดแยกประมาณ 3,000 คน