Thai / English

"สหภาพบัวหลวง" ชุมนุมต่อ เตรียมขอกระทรวงแรงงานตั้งตัวแทนชี้ขาดข้อพิพาท-เงินโบนัส



30 .. 56
เครือมติชน

เมื่อวันที่ 29 มกราคม เวลา 12.00 น. สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพ ได้รวมตัวกันที่ลานบัว หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ถนนสีลม จำนวนหลายร้อยคน เพื่อชุมนุมกดดันผู้บริหารเรื่องการขอขึ้นเงินโบนัสพิเศษและข้อเรียกร้องทั้ง 4 ข้อที่ได้เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ และการไกล่เกลี่ยที่กระทรวงแรงงานเมื่อสัปดาห์ก่อนยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้เป็นการเสนอมติต่อมวลชน ก่อนที่จะเข้าไกล่เกลี่ยกับตัวแทนธนาคารในวันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคมนี้ ที่กระทรวงแรงงานอีกครั้ง

นายชัยวัฒน์ มาคำจันทร์ ประธานสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพกล่าวว่า คณะกรรมการสหภาพแรงงานมีมติหลังหารือร่วมกันที่จะยกระดับการเจรจาให้เข้มข้น หลังจากที่การเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้แทนธนาคารหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปและยืดเยื้อมานาน และยังไม่มีท่าทีจากฝ่ายบริหารในเรื่องนี้ ซึ่งทางฝ่ายบริหารส่งนักกฎหมายเข้าเจรจากับทางสหภาพและอ้างอิงกฎหมาย ซึ่งไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจและไม่ได้มีความชัดเจนให้กับทางสหภาพ รวมทั้งพยายามกดดันให้สหภาพฟ้องศาลเพื่อตัดสินเอง ซึ่งกระบวนการทางศาลเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม สหภาพยินดีที่จะเจรจากับทางฝ่ายบริหารตลอด ทั้งนี้อยากให้เรื่องนี้จบให้เร็วเพื่อผลดีของทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากขณะนี้มีกระแสข่าวลือทั้งเรื่องกรรมการสหภาพรับเงินเพื่อยุติการชุมนุม รวมทั้งข่าวลือเรื่องฝ่ายบริหารไม่ให้พนักงานใส่ชุดดำ

“สหภาพจะรอความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 30 มกราคมนี้ หากยังไม่มีข้อสรุปจะเดินหน้าต่อ โดยจะขอให้กระทรวงแรงงานแต่งตั้งผู้ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะมีการเสนอชื่อคนกลางฝ่ายละหนึ่งคน ซึ่งตัวแทนของฝ่ายสหภาพจะขอให้ทางกระทรวงแรงงานพิจารณา และเรียกร้องให้ฝ่ายนายจ้างส่งนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เป็นตัวแทนฝ่ายบริหารเพื่อชี้ขาดข้อพิพาท”

โดยข้อเสนอของสหาพแรงงานธนาคารกรุงเทพคือ 1.ขอโบนัส 4 เดือน จากปัจจุบันที่ธนาคารจ่าย 2 เดือน และเงินช่วยเหลือพิเศษอีก 1 เดือน ข้อที่ 2.เงินประทังชีวิตหลังเกษียณจากปัจจุบัน 3 แสนบาทต่อราย เป็น 4.5 แสนบาทต่อราย ข้อที่ 3 ขอขึ้นอัตราเงินเดือน 6% เท่ากันทั้งธนาคาร หลังจากที่ปรับให้พนักงานประจำ 3% การตลาดฝ่ายขาย 6% และข้อที่ 4.ขอให้มีการแก้ไขการจ่ายคืนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จากปัจจุบันคิดเป็นอันดับขั้น ให้คิดเป็น 7% เท่ากันทั้งธนาคาร