Thai / English

พม่าเนื้อหอม ตปท.แห่ลงทุน-เที่ยว เตือนนักธุรกิจไทยอย่าตกขบวน หวั่นขาดแรงงานเหตุกลับประเทศ



17 .. 55
เครือมติชน

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการพาสื่อมวลชนศึกษาดูงานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศพม่าระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในประเทศพม่ามากขึ้น โดยเฉพาะจาก 3 ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย ตามด้วยสิงคโปร์ มาเลเซีย แม้ว่ากลไกต่างๆ เช่น ระบบการเงินที่ยังไม่ได้มาตรฐานสากล ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ยังไม่ดีนัก แต่ถือว่าดีขึ้นมากกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในพม่ายังมีอยู่มาก ขณะที่อุตสาหกรรมต้นน้ำในไทยต้องย้ายฐานผลิตแล้ว หลังทรัพยากรเริ่มหมดไปเรื่อยๆ

นายอารีพงศ์กล่าวว่า บางธุรกิจที่เคยเป็นธุรกิจดาวร่วงในไทยอย่างสิ่งทอกำลังจะกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งในพม่า เพราะค่าแรงไม่สูงนัก ต่อไปไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานได้เมื่อแรงงานพม่าย้ายกลับไปถิ่นฐานบ้านเกิด เพราะมีการย้ายฐานผลิตหรือไปเปิดโรงงานในพม่าแทน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญและเตรียมรับมือ เพราะค่าแรงพม่าตกเดือนละ 4,500 บาท ขณะที่ค่าแรงของไทยสูงกว่าเท่าตัวถึง 9,000 บาท จากนโยบายปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทŽ

นายอารีพงศ์กล่าวว่า ธุรกิจบริการถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวรุ่ง โดยเฉพาะด้านโรงแรมและท่องเที่ยว โดยขณะนี้ราคาค่าห้องพักเพิ่มสูงขึ้นมากจากจำนวนนักท่องเที่ยวมีมากกว่าจำนวนห้องพัก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเมืองย่างกุ้ง 500,000 คน จากเดิมที่ 300,000-400,000 คน ไทยถือว่าได้เปรียบด้านการบริหารโรงแรมอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะตกขบวนการเข้าไปเปิดตลาดรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังหลั่งไหลไปพม่าŽ นายอารีพงศ์กล่าว และว่า ที่ผ่านมามีนักธุรกิจไทยไปลงทุนในพม่าบ้าง แต่ยังมีเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น เท่านั้น หากไทยหันมาลงทุนในพม่ามากขึ้น น่าจะเป็นโอกาสขยายตลาดที่มีประชากรมากถึง 50 ล้านคนได้ ซึ่งไทยมีข้อได้เปรียบจากการที่มีชายแดนติดกันยาวจากเหนือลงใต้ของพม่า ที่สำคัญสามารถขยายต่อไปยังจีนและอินเดียได้ด้วย