Thai / English

นักกิจกรรมยื่นจดหมายทูตญี่ปุ่น กรณี บ.อาซาฮี โกเซ ฟ้องบล๊อกเกอร์เรียกค่าเสียหาย 3.2 ล้านดอลลาร์


เทวฤทธิ์ มณีฉาย
18 .. 54
ประชาไท

เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ พร้อมด้วยกลุ่มคนงาน TRY ARM และโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย เข้ายื่นจดหมายแสดงความห่วงใยต่อทูตญี่ปุ่นกรณีบริษัทอาซาฮี โกเซ ฟ้องบล๊อกเกอร์ชาวมาเลเซียเรียกค่าเสียหาย 3.2 ล้านดอลลาร์ หลังเปิดเผยคนงานพม่า 31 คนร้องทุกข์เกี่ยวกับการละเมิดสิท​ธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน

วันนี้ (17 ส.ค.54) เวลา 10.00 น. เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ (Action Network for Migrants-ANM) พร้อมด้วยกลุ่มคนงาน TRY ARM และโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย(Thai Labour Campaign) ประมาณ 20 คน ได้ชุมนุมบริเวณหน้าสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความห่วงใยต่อกรณี 'ชาร์ลส เฮคเตอร์' บลอกเกอร์-นักกิจกรรมชาวมาเลเซียถูกฟ้องร้องจากบริษัทญี่ปุ่นในคดีหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหาย 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ(หรือประมาณ 100 ล้านบาท) หลังเปิดเผยการละเมิดสิทธิแรงงานพม่า ในมาเลเซีย โดยทางเครือข่ายฯยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นหยุดและยกเลิกการฟ้องร้อง รวมถึงออกมาคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีดังกล่าวในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

จากนั้นเวลา 11.00 น.ทางสถานทูตได้ส่งนายยูคิฮิโก คาเนโก( Mr.Yukihiko Kaneko) เลขานุการเอกประจำสถานทูต(First Secretary, Embassy of Japan in Thailand) มารับจดหมาย พร้อมกับกล่าวว่าเข้าใจข้อเรียกร้องของทางเครือข่าย แต่ทางสถานทูตไม่มีอำนาจไปบอกบริษัทหรือคนญี่ปุ่นคนอื่นๆว่าให้ทำหรือไม่ทำการใดๆ และทางเราเข้าใจว่าความยุติธรรมนั้นจะมาจากคำตัดสินของศาล ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นสมาชิกของ OECD แต่สมาชิกของ OECD นั้นไม่มีอำนาจหน้าที่ใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมกับรับจดหมายไป

โดยมีนายเสถียร ทันพรม ประธานเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ ได้เป็นผู้ยื่นและอ่านจดหมายฉบับดังกล่าว ใจความว่าทางเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติต้องการมาแสดงความห่วงใยอย่างลึกซึ้งต่อกรณีที่บริษัทที่บริษัทอาซาฮี โกเซ ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นได้ดำเนินฟ้องนายชาร์ล เฮเตอร์ ซึ่งเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ทนายความและบล็อกเกอร์ในคดีหมิ่นและเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินถึง 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่นายชาร์ล เฮเตอร์ ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนกรณีที่คนงานพม่า 31 คน ที่ทำงานในโรงงานของอาซาฮี โกเซ ร้องทุกข์เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน เพื่อให้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่นิ่งเฉยและดำเนินการในการปกป้องสิทธิมนุษยชน

นายเสถียร ทันพรม ยังกล่าวย้ำอีกว่า “ในฐานะที่รัฐบาลญี่ปุ่นก็เป็นสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งการที่รัฐบาลมิได้ดำเนินการใดๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจะถูกมองได้ว่าเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทญี่ปุ่นโจมตีนักปกป้องสิทธิมนุษยชนดังกล่าว”

“และทางเครือข่ายยังเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมและรักษาหลักการของปฏิญญาว่าด้วยสิทธิและความรับผิดชอบของบุคคลและหน่วยงานในสังคมเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล และทางเครือข่ายยังเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นหยุดและยกเลิกการฟ้องร้องนักกิจกรรมและทนายความ(นายชาร์ล เฮเตอร์) รัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีต่อบริษัทของญี่ปุ่นในการที่จะคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากความรุนแรง การคุกคาม การตอบโต้ ถูกเลือกปฏิบัติ กดดันหรือการกระทำต่างๆที่ไม่ถูกกฎหมาย จากการที่พวกเขาเหล่าเรียกร้องสิทธิที่ระบุไว้ในปฏิญญาดังกล่าว” ประธานเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ กล่าว

ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติต่อไปในกรณีนี้ ประธานเครือข่ายฯได้เปิดเผยว่าจะให้เวลาในการพิจารณาแก้ปัญหา แต่ทางเครือข่ายจะคอยติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการต่อไป ย้ำว่าการที่มาวันนี้เพื่อมาแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่เกิดขึ้นให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับทราบ ถ้ารัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีที่ชัดเจนต่อกรณีนี้จะเป็นผลบวกกับรัฐบาลญี่ปุ่นเองในการเข้าไปปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

ด้านนางสาวจิตรา คชเดช ผู้ประสานงานกลุ่มคนงาน TRY ARM ได้กล่าวถึงข้ออ้างที่ทางตัวแทนสถานทูตว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการทางศาลไม่เกี่ยวกับกระบวนการขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ว่าถึงอย่างไรประเทศญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่เป็นสมาชิก OECD ซึ่งมีแนวปฏิบัติสำหรับบรรษัทข้ามชาติ(OECD Guidelines for MNEs) ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นเองต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่นักลงทุนของตนซึ่งไปลงทุนอยู่ทั่วโลกด้วย ไม่ใช่เพียงแค่อ้างว่าให้ปฏิบัติตามมาตรฐานของประเทศนั้นๆ ถ้าหากนักลงทุนของญี่ปุ่นไปลงทุนประเทศที่มีการกดขี่และละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็หมายถึงให้ปฏิบัติตามนั้นแล้วจะมีแนวปฏิบัติสำหรับบรรษัทข้ามชาติของ OECD ไว้เพื่ออะไร รัฐบาลญี่ปุ่นต้องตระหนังเรื่องนี้เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับคนงานและประชาชนในประเทศที่นายทุนญี่ปุ่นมาลงทุน

หลังจากยื่นหนังสือต่อตัวแทนสถานทูตเสร็จในเวลา 11.30 น. โดยประมาณทางเครือข่ายได้แยกย้ายกันออกจากบริเวณหน้าสถานทูตโดยสงบ ทั้งนี้ในระหว่างชุมนุมทางผู้ชุมนุมได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมใช้ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าออกเป็นสถานที่ยื่นหนังสือ โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ของทางญี่ปุ่น สร้างความไม่พอใจกับผู้ชุมนุม ทำให้มีการเจรจากันประมาณ 20 นาที ทางผู้ชุมนุมจึงยอมออกมายื่นหนังสือบริเวณริมถนนวิทยุหน้าสถานทูตซึ่งห่างจากจุดเดิมประมาณ 10 เมตร