Thai / English

ผู้นำเเรงงานไทย ร้องILO ณ นครเจนีวา ประเด็นละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาต

ผู้นำเเรงงานไทยร้ององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ณ นครเจนีวา ไทยยังกีดกันแรงงานข้ามชาติจากพม่า ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ

14 .. 54
http://voicelabour.org/?p=4589

วันนี้ (13 มิ.ย. 2554) เวลา 14.00 น. (ประเทศไทย) (9.00 น. เวลาเจนีวา) นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ยื่นหนังสือต่อ องค์การเเรงงานระหว่างประเทศ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์เเลนด์ ร้องเรียนกรณีที่รัฐบาลไทยละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้านการคุ้มครองเเรงงานข้ามชาติ หลังพึ่งกลไกในประเทศ ทั้งรัฐบาลและศาลไม่ได้ เพราะยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้ว่าองค์การแรงงานระหว่างประเทศ และองค์การสหประชาชาติได้ร้องขอให้รัฐบาลไทยยุติการละเมิดแรงงานข้ามชาติจากพม่าในประเทศไทย เเต่รัฐบาลไทยกลับเพิกเฉย

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน พร้อมเอกสารประกอบมากกว่า 500 หน้า เเสดงหลักฐานยืนยันถึงการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบ ต่อเเรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่า ในการเข้าถึงกองทุนเงินทดแทนของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) หลังเเรงงานข้ามชาติได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน การปฏิเสธสิทธิของเเรงงานข้ามชาติในการเข้าถึงกองทุนเงินทดแทน ตามหนังสือเวียน สปส. ที่ รส. 0711/ว 751 เป็นข้อห่วงใยในปี 2553 ของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญแห่งองค์การแรงงานระหว่างประเทศด้านการมีผลบังคับของอนุสัญญาและข้อเสนอแนะและผู้รายงานพิเศษเเห่งสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนของเเรงงานย้ายถิ่นที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทย “ทบทวน” หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวและให้นำแรงงานข้ามชาติเข้าสู่ระบบกองทุนเงินทดแทน แต่รัฐบาลไทยยังนิ่งเฉย เเละยังคงปฏิเสธสิทธิของแรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่าที่จะได้รับเงินทดแทนกรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานจากกองทุนเงินทดแทน ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย. 2554) กระทรวงแรงงานจะขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดตั้งกองทุนประกันอุบัติเหตุเอกชนสำหรับแรงงานข้ามชาติซึ่งให้สิทธิประโยชน์น้อยกว่ากองทุนเงินทดแทน เพื่อจ่ายเงินทดแทนให้แรงงานข้ามชาติที่ประสบอุบัติเหตุเเละเจ็บป่วยจากการทำงาน เเยกต่างหากจากกองทุนเงินทดแทน

นายสาวิทย์ กล่าวจากนครเจนีวาว่า “จากความพยายามหลายปีของการเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมระหว่างเเรงงานไทยเเละเเรงงานข้ามชาติ โดย สรส.อย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลยังคงปล่อยให้มีการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติ และการละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งที่รัฐบาลมีพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน (เรื่องเงินทดแทนกรณีอุบัติเหตุ) ค.ศ. 1925 (อ.ที่ 19) ในวันพรุ่งนี้กระทรวงแรงงานวางแผนจะเสนอให้รัฐบาลอนุมัติโครงการการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลขึ้น เพื่อที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับ “แรงงานข้ามชาติ” ที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเป็นแผนการที่คลุมเครือเเละมิได้ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ยิ่งไปกว่านั้นนโยบายที่อ้างว่าจะปกป้องสิทธิแรงงานของแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก แต่มีการเเยกระบบของเเรงงานข้ามชาติออกจากแรงงานไทย เป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดแจ้ง

นโยบายของรัฐบาลไทยที่ปฏิเสธการเข้าถึงสิทธิของแรงงานข้ามชาติในการเข้าถึงกองทุนเงินทดแทนยังคงส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการดำรงชีวิตของแรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่าที่ทำงานในประเทศไทยซึ่งมีประมาณ 2-3 ล้านคน ที่ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่อาจได้รับบาดเจ็บและเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน การปฏิเสธสิทธิภายใต้กองทุนเงินทดแทนนี้ จึงทำให้แรงงานข้ามชาติหลายต่อหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายแรงเนื่องจากการทำงานนั้น กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือทางด้านการเงินแต่อย่างใด

“แรงงานข้ามชาติที่ตกเป็นเหยื่อจากการประสบอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงาน สมควรได้รับการรับประกันการเยียวยาจากรัฐโดยผ่านกองทุนเงินทดแทน เพราะหากไปรอพึ่งให้นายจ้างมาเยียวยาแต่เพียงประการเดียวแล้วนั้น ก็คงเชื่อถือไม่ได้ ดังเช่นที่ สรส. ได้รับรายงานมาเเล้ว ในหลายกรณี นายจ้างก็หลบหนี หรือเเจ้งตำรวจมาจับเเรงงานข้ามชาติ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับภาระเเรงงานที่บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน เราไม่สามารถยอมรับโครงการประกันอุบัติเหตุสำหรับแรงงานข้ามชาติโดยเอกชน ที่ให้สิทธิประโยชน์น้อยกว่ากองทุนเงินทดแทน เเละการคุ้มครองเเรงงานข้ามชาติที่แยกต่างหากจากแรงงานไทย เป็นระบบที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นการเลือกปฏิบัติ แรงงานข้ามชาติทุกคนในประเทศไทย โดยไม่ต้องมีการคำนึงถึงสัญชาติ ต้องได้รับสิทธิในด้านแรงงาน และถึงเวลาแล้วที่แรงงานข้ามชาติเหล่านี้จะต้องได้รับความคุ้มครองเมื่อได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการทำงานเฉกเช่นเดียวกับแรงงานไทย” นายสาวิทย์ กล่าวจากนครเจนีวา

*สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เป็นสมาพันธ์แรงงานของสมาคมแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย 43 แห่ง ประกอบด้วยสมาชิกกว่า 170,000 คน และเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แรงงานระหว่างประเทศ

44 นิคมรถไฟ กม. 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 11 แขวง / เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900

44 Nikom Rodfai, KM.11, Viphavadee Soi 11, JatuJak, Bangkok 10900

โทรศัพท์ Tel. 02-537-8973 โทรสาร Fax. 02-936-2450