Thai / English

นักลงทุนหนีอีสาน หันไปตั้ง รง.ในประเทศเพื่อนบ้าน



27 .. 53
เครือมติชน

นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาพความรุนแรง มีการเผาอาคารสถานที่ราชการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการจลาจลสัปดาห์ที่ผ่านมา ในส่วนของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคงเป็นเรื่องของการลงทุน เนื่องจาก นักลงทุนเห็นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงสูง ทั้งการลงทุนใหม่และการขยายลงทุนหลายโครงการอาจจะชะลอออกไป ส่วนการส่งออกและตลาดภายในประเทศในระยะสั้นยังไม่ได้รับผลกระทบเพราะออร์เดอร์สินค้ายังมีอยู่ต่อเนื่อง

เดิมนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หลายรายมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น จากเหตุผลเส้นทางคมนาคมสามารถเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาวถึงเวียดนามได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว การลงทุน/การขนส่งสินค้าสามารถขนส่งผ่านเส้นทางดังกล่าวไปยังลงที่ท่าเรือน้ำลึก ในประเทศเวียดนามได้ แต่ภาพการเผาศาลากลางในภาคอีสานหลายจังหวัดทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง มีผลทำให้ไม่ตัดสินใจลงทุนในพื้นที่อีสาน สุดท้ายก็คงจะหันไปลงทุนในประเทศ เพื่อนบ้านที่มีศักยภาพและมีความเสี่ยงน้อยกว่าแทน อาทิ เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย เป็นต้น

"ภาพการเผาอาคารที่เกิดขึ้นค่อนข้างสร้างความกังวลแก่นักลงทุนอย่างมาก ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่ผ่านมามีการเรียกร้อง ของพนักงานบริษัทซันโยซึ่งเป็นผู้ผลิต เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในขณะนั้นถึงขั้น มีการเผาทำลาย สร้างบรรยากาศความ ไม่มั่นใจในการลงทุนของบริษัทต่างชาติ เป็นอย่างมาก กว่าจะกอบกู้ดึงความเชื่อมั่นต้องใช้เวลากันพอสมควร แต่วันนี้ ภาพเหตุการณ์เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์หรือธนาคารต่าง ๆ มันยิ่งรุนแรงกว่าในอดีตมาก เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สร้างความไม่เชื่อมั่น เป็นอย่างมากและเห็นว่าแกนนำเสื้อแดง รุ่น 2 ได้ประกาศรวมตัวชุมนุมกันช่วงปลายมิถุนายน รัฐบาลจะต้องหาทางแก้ไขปัญหา ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ส่วนเอกชนก็พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลอย่างเต็มที่" นางกนิษฐกล่าว