Thai / English

กลับทำนารับราคาพืชผลพุ่ง



14 .. 52
ไทยรัฐ

ส.อ.ท.วิตกปีหน้าแรงงานภาคการผลิตส่อขาดแคลน 2-3 แสนคน โดยเฉพาะช่างฝีมือในกลุ่มรองเท้าและสิ่งทอ เหตุแรงงานเคลื่อนย้ายกลับไปทำภาคการเกษตร หลังราคาพืชผลสูงขึ้นมาก ...

นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสายงานแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการจ้างงานในปี 2553 จะมีเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าภาคการผลิตจะขาดแรงงานทั่วไปรวมไม่ต่ำกว่า 200,000-300,000 คน โดย เฉพาะระดับช่างฝีมือภายหลังจากที่คำสั่งซื้อสินค้าหรือออเดอร์ส่งออกเริ่มทยอยกลับมา หลังเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาถึงจุดต่ำสุดและเริ่มกลับมาค่อยๆฟื้นตัว ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นชัดเจนว่าบางอุตสาหกรรมขาดแคลนแรงงานฝีมือ โดยเฉพาะกลุ่มสิ่งทอและรองเท้า ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

"ปี 2553 เรื่องตกงานไม่น่าห่วง แต่เด็กจบใหม่ที่จบปริญญาตรีคงมีปัญหาตกงานเช่นเคย เพราะ ภาคการผลิตส่วนใหญ่ต้องการแรงงานระดับล่างและ ช่างฝีมือ ที่ขณะนี้เริ่มขาดแคลนบ้างแล้ว แต่เรายังไม่สามารถประเมินตัวเลขที่ชัดเจนได้ ซึ่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่น่าห่วง เพราะได้เริ่มปรับตัว เน้นใช้เทคโนโลยีแทนคน แต่ที่ห่วงคืออุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี" นายทวีกิจกล่าว

นายทวีกิจยังกล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากสมาชิก ส.อ.ท.หลายกลุ่ม ระบุตรงกันว่าแรงงานระดับช่างฝีมือและแรงงานทั่วไปทยอยกลับภูมิลำเนา เนื่องจากพืชผลทางการเกษตรมีราคาดี ทำให้เป็นที่กังวลว่า ในปี 2553 แรงงานเหล่านี้อาจจะไม่ยอมกลับเข้ามาทำงานในภาคการผลิต เนื่องจากแนวโน้ม ราคาสินค้าภาคการเกษตรรวมมีราคาที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะข้าว, อ้อย เป็นต้น ส่วนปัญหามาบตาพุดนั้น เบื้องต้นจะกระทบกับแรงงานในภาครับเหมาก่อสร้างก่อน จึงไม่มีผลต่อแรงงานภาคอุตสาหกรรมมากนักและเชื่อว่าสุดท้ายจะกลับมาเดินเครื่องการผลิตได้ แต่อาจช้ากว่าแผนที่วางไว้

นายสกล ศิกษมัต นายกสมาคมรองเท้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ผลิตรองเท้ากำลังประสบปัญหาขาดแคลนช่างฝีมือ 3,000-4,000 คน และ เป็นห่วงว่าจะขาดแคลนเพิ่มขึ้นอีกในปี 2553 เนื่องจากขณะนี้คำสั่งซื้อเริ่มทยอยกลับเข้ามาบ้างแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มรองเท้าแฟชั่น รองเท้าแตะระดับราคาสูง เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นและสหภาพ ยุโรปบางประเทศได้หันมาสั่งไทยผลิตแทนจีน เพื่อ ถ่วงดุลเรื่องการขาดดุลการค้ากับจีน "ปัญหาแรงงานฝีมือเหล่านี้ต้องใช้เวลาในการพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเราพยายามอธิบายให้ทุกส่วนเข้าใจว่า เมื่อแรงงานอยู่จุดนี้แล้วมันเหมือนเป็นวิชาชีพติด ตัว เขาจะไปไหนก็ได้และค่าแรงก็จะสูงขึ้นด้วย ประกอบกับทิศทางพืชผลการเกษตรมีราคาดี แรงงานกลุ่มนี้ก็จะกลับไปทำการเกษตรแทน"

สำหรับทิศทางการส่งออกรองเท้าปีนี้ภาพรวมคาดว่าจะติดลบประมาณ 17% ถือว่าติดลบต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะติดลบมากกว่า 20% ส่วนภาวะการแข่งขันนั้นแม้เวียดนามจะลดค่าเงินด่อง แต่ภาพรวมสินค้าไทยสามารถแข่งขันได้ ซึ่งจุดนี้ไม่ได้เป็นห่วง แต่กังวลปัญหาการขาดแคลนแรงงานมากกว่า เพราะหากเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วในปี 2553 จะลำบาก

นายขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอดคำสั่งซื้อไตรมาส 4 เริ่มเพิ่มขึ้น ทำให้ ผู้ประกอบการต้องเพิ่มงานล่วงเวลา (โอที) และบางโรงงานต้องรับคนงานเพิ่ม โดยโรงงานอิเล็กทรอนิกส์มีความต้องการแรงงานเพิ่มถึง 10,000 คน เพราะคำสั่งซื้อเข้ามาเร็วและมีระยะเวลาส่งมอบ ทำให้ต้องเพิ่มโอทีและหาแรงงานเสริมเพื่อเร่งผลิตให้ทัน สำหรับการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปี 2553 มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นบวก ส่วนปีนี้คาดว่าจะติดลบ 15-20%.