Thai / English

ญาติ3คนงานไทยเหยื่อเผาในไต้หวันวอนรัฐช่วย

ญาติ3คนงานไทยชาวบุรีรัมย์บาดเจ็บจากเหตุคนเวียดนามจุดถังแก๊สโยนระเบิดกลางวงไฟลุกท่วมที่ไต้หวัน ตาย 3 บาดเจ็บ7 วอนก.แรงงานช่วยเหลือด่วน

09 .. 52
กรุงเทพธุรกิจ

จากเหตุการณ์ 3 แรงงานไทย ชาวจ.บุรีรัมย์ ได้แก่ นายวุฒินันท์ และนายวรชัย มาฤทธิ์ อายุ 36 ปี ฝาแฝดพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 บ้านดงเย็น อ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ และนายวรยุทธ ลาดศิลา อายุ 37 ปี อยู่บ้านโนนเจริญ ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง ไปทำงานประเทศไต้หวัน ถูกแรงงานชาวเวียดนามเขม่นไม่พอใจที่ร้องเพลงเสียงดัง จุดไฟถังแก๊สโยนเข้าห้องคาราโอเกะ ร้านอาหารทะเลคาราโอเกะ ที่เมืองท่ากุ้ยเชียน ตอนเหนือของประเทศไต้หวัน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่แรงงานไทยกว่า 10 คนกำลังกินเลี้ยงส่งนายวุฒินันท์ มาฤทธิ์ อายุ 36 ปีจะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เป็นเหตุให้มีเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 7 คน อาการหนักน่าเป็นห่วงรักษาอยู่ในห้องไอซียู ที่ประเทศไต้หวัน

วันนี้(8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 บ้านดงเย็น อ.บ้านด่าน บ้านของนายวุฒินันท์ และนายวรชัย มาฤทธิ์ อายุ 36 ปีแฝดที่ไปทำงานประเทศไต้หวัน และประสบเหตุดังกล่าว อาการสาหัส เมื่อไปถึงพบ นายสมาน และ นางใส มาฤทธิ์ พ่อ แม่ และญาติของนายวุฒินันท์ และนายวรชัย รวมทั้งนางหนูค่าย ลาดศิลา และนางบัวทอง หล่าโพนทัน มารดาและภรรยาของนายวรยุทธ ลาดศิลา อายุ 37 ปี

ทั้งหมดยังอยู่ในอาการกังวลด้วยความเป็นห่วงบุตรชายทั้งสามคนว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่ โดยเฉพาะนายวุฒินันท์ และวรยุทธ ยังไม่รู้สึกตัว อาการสาหัส นอนพักรักษาตัวในห้อง ไอ. ซี. ยู. ส่วนนายวรชัย รู้สึกตัวแล้ว อาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังห่วงว่าแผลอาจจะติดเชื้อ ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้ง 3 คน

โดยครอบครัว และญาติ ของแรงงาน ชาวบุรีรัมย์ ทั้ง 3 คน ได้ออกมาเรียกร้องให้กระทรวงแรงงาน เข้าไปช่วยเหลือชีวิตแรงงานทั้ง 3 คน ที่อยู่ในอาการโคม่า พร้อมทั้งดูแลด้านคดี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และมีปัญหาหนี้สินจากการนำที่บ้าน และที่นา ไปจำนองกับทางธนาคาร และนายทุนหลายแสนบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานยังประเทศไต้หวัน พร้อมทั้งให้ช่วยเหลือนำแรงงานทั้ง 3 ที่บาดเจ็บกลับมารักษายังประเทศไทยด้วย

นางใส มาฤทธิ์ อายุ 58 ปี แม่ของนายวุฒินันท์ และนายวรชัย กล่าวว่า หลังทราบข่าวลูกชายทั้งสองถูกไฟคลอกบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากันก็รู้สึกเสียใจมาก จึงขอให้ทางกระทรวงแรงงาน หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะขณะนี้ลูกทั้ง 2 อยู่ในห้องไอซียู พร้อมได้รับแจ้งจากทางบริษัทว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรอดูอาการ ให้ทำใจ แต่หากเกิน 7 วันก็อาจมีชีวิตรอด ทั้งพ่อแม่และครอบครัวของทั้งสองเป็นห่วงมาก แต่ก็ไม่มีปัญญาที่จะเดินทางไปเยี่ยมหรือนำลูกกลับมารักษาที่เมืองไทยได้

ขณะที่นางบัวทอง ภรรยานายวรยุทธ กล่าวว่า ทราบข่าวสามีจากนายหน้าส่งคนงาน โทรมาแจ้งว่า สามีได้รับอุบัติเหตุถูกไฟคลอกอาการโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะร่างกายถูกไฟไหม้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะบริเวณช่วงท้อง ลำตัวไหม้เกรียม โอกาสมีชีวิตรอดน้อยมาก จึงอยากวิงวอนให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และมีปัญหาหนี้สินจากการนำที่นา ไปจำนองกับนายทุนหลายแสนบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานยังประเทศไต้หวัน แต่ก็มาประสบเหตุดังกล่าว

นางบัวทอง ยังกล่าวอีกว่าหากนายวรยุทธ สามีเป็นอะไรไปก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ส่วนที่เหลือ ทั้งยังต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวอีก 2 ปัจจุบันคนโตเรียนอยู่ชั้น ป.5 คนเล็ก เรียนอยู่ชั้น ป.1 เพราะลำพังมีเพียงอาชีพทำนา จึงอยากวอนให้ภาครัฐช่วยเหลือด้วย