Thai / English

รถยนต์ฟื้นผลิตแตะล้านคัน ค่ายรถหวั่นรับแรงงานแล้วต้องปลดอีกรอบ



25 .. 52
ไทยรัฐ

อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ลุ้นยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เเตะล้านคันอีกครั้ง หลังจากออเดอร์ต่างประเทศเพิ่มต่อเนื่อง เริ่มเพิ่มเวลาทำงานเป็น 2 กะ แต่ยังหวั่นเกิดวิกฤติจ้างงานอีกรอบ หากเศรษฐกิจฟื้นไม่จริง..

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้อาจปรับเพิ่มถึง 1 ล้านคัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ที่ 940,000 คัน เนื่องจากคำสั่งซื้อรถยนต์จากต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน จนค่ายรถยนต์ หลายบริษัทได้เพิ่มช่วงเวลาการทำงานเป็น 2 กะ รวมถึงเพิ่มค่าทำงานล่วงเวลาหรือโอทีให้พนักงานเพื่อเร่งกำลังการผลิตให้ทันต่อความต้องการลูกค้า โดยเฉพาะเดือน ส.ค. ที่ผ่านมายอดผลิตอยู่ที่ 83,000 คัน จำนวนนี้เป็นการผลิตเพื่อส่งออก 40,000 คัน เพิ่มจากเดือนก่อนหน้า 2,000 คัน

"ขณะนี้เป้าตัวเลขการผลิต 940,000 คัน ที่เคยวางไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลายค่ายรถยนต์เริ่มมองข้ามแล้วและพูดถึงหลักล้านคันกันแล้ว เนื่องจากตลาดต่างประเทศฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ รวมถึงเกิดความต้องการซื้อรถยนต์ที่แท้จริงไม่ใช่ สต๊อกสินค้าใกล้จะหมดเหมือนกับ 2-3 เดือนก่อน แต่ปัญหาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้มากนัก เพราะแรงงานที่รับมาใหม่ต้องใช้เวลานานในการอบรม"

ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกหลายแห่งเริ่มสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายรถจากสหรัฐฯ ขณะที่ค่ายรถจากญี่ปุ่นทั้งหมดยืนยันจะลงทุนและขยายกำลังการผลิตในไทยเพิ่มเช่นกัน เนื่องจากไทยมีความพร้อมต่อการตั้งฐานการผลิตโดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์ต่างจากประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน และที่สำคัญในวันที่ 1 ม.ค.2553 การลดภาษีรถยนต์นั่งในกลุ่มอาเซียนให้เหลือ 0% ยิ่งสร้างความได้เปรียบของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

ด้านนายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า รัฐบาลได้ใช้งบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนซื้อสินค้ามากขึ้น แต่ไม่มีมาตรการโดยตรงกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถยนต์คันใหม่ ดังนั้น การพัฒนาสินค้าและการออกโปรโมชั่นของค่ายรถยนต์จะต้องเน้นดึงดูดความสนใจ ทั้งด้านราคาและระยะเวลาในการผ่อนชำระให้ยาวนานขึ้น ทาง สศอ.จึงจัดสรรงบ 40 ล้านบาทให้กับสถาบันยานยนต์เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของรถยนต์และชิ้นส่วน พัฒนาบุคลากร และระบบฐานข้อมูลอุตสาห-กรรมยานยนต์ทั้งไทยและต่างประเทศภายใต้ โครงการศูนย์สารสนเทศยานยนต์

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ อยากให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ระวังการรับแรงงานกลับเข้าทำงานอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มชิ้นส่วนได้รับแรงงานเข้ามาทำงานเพิ่ม 20-30% จากเดิมที่เคยปลดไปกว่า 40,000 คนในช่วงต้นปีนี้ เพราะการรับคนกลับเข้าทำงานเร็วเกินไปอาจมีปัญหาลดคนตามมาภายหลังได้ เพราะเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจโลกอาจกลายเป็นรูปตัว W ได้ ซึ่งอาจไม่ใช่เป็นตัว U หรือตัว V อย่างที่หลายฝ่ายประเมินในกรณีที่เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละประเทศหมดลง

ขณะที่นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) ได้กล่าวในงานสัมมนา "ทิศทางยนตร-กรรมหลังวิกฤติใหญ่ยานยนต์โลก" ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และจักรยานยนต์ไทย ว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีในภาคการผลิตของอุตสาหกรรมยาน-ยนต์ไทย ที่เพิ่มกะการทำงาน และแนวโน้มของเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 52.97% จากความสามารถในการผลิต 1.8 ล้านคันต่อปี ขณะที่เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 82.84%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ได้เริ่มปะทุตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและตลาดส่งออกพลอยหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้วโรงประกอบรถยนต์และโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยหลายแห่งได้ชะลอการผลิต โดยลดการผลิตจาก 2 กะ เป็น 1 กะ หรือไม่ก็เลือกปิดโรงงานเป็นการชั่วคราว ขณะที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายได้ปิดโรงงานเป็นการถาวร เพราะออเดอร์ได้หดวูบ ทำให้มีการปลดแรงงานไปเป็นจำนวนมาก โดยการถดถอยของตลาดทั้งในประเทศและตลาดส่งออกได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงกลางปีนี้ ซึ่งทำสถิติยอดส่งออกตกต่ำสุดในรอบ 50 เดือน

ทั้งนี้ ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยของ ส.อ.ท. ได้ทบทวนตัวเลขคาดการณ์ภาวะการผลิตรถยนต์ในปีนี้ใหม่ เพราะเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่ได้เคยคิดไว้ ได้แก่ ยอดผลิตรถยนต์รวมในปีนี้เชื่อว่าจะไม่ถึง 1 ล้านคัน จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.08 ล้านคัน ขณะที่ปีที่แล้วมียอดผลิตอยู่ที่ 1.394 ล้านคัน สำหรับยอดผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศในปีนี้จะอยู่ที่ 430,000 คัน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 488,000 คัน ขณะที่ปีที่แล้วผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น 610,000 คัน และเป้าใหม่ของยอดผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกในปีนี้จะตกประมาณ 510,000 คัน จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 592,000 คัน ขณะที่ปีที่แล้วมีการส่งออกถึง 780,000 คัน.