Thai / English

แนะ"มาร์ค"แก้แรงงานต่างด้าว

ทำถูกจุดโกยรายได้เข้ารัฐมหาศาล

05 .. 52
เครือมติชน

นายประมวล เขียวขำ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า แรงงานต่างด้าว ที่มีอยู่ในประเทศไทย มีทั้งเถื่อนและถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อเปรียบเทียบปริมาณแตกต่างกันมาก เช่นที่ จ.สระแก้ว ปีแรกที่ส่วนราชการให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ผู้ประกอบการเข้ามาจดกว่า 20,000 คน พอปีต่อมา มีมาจดแค่ 2,000 คนเท่านั้น หรือเพียงร้อยละ 10 รายได้ของรัฐลดลงถึงร้อยละ 90

"การบริการของรัฐไม่อำนวยความสะดวกในการจดทะเบียน เช่น เมื่อมีการทำบัตรหรือจดทะเบียนแล้ว ต้องไปพิสูจน์สัญชาติที่ จ.ชลบุรี และ ต่อที่กรุงเทพฯ มีหลายขั้นตอน การดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว ใน จ.สระแก้ว ควรสิ้นสุดที่จังหวัด การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ก็ยังสูงอยู่ เช่น ค่าตรวจโรค ค่าประกันสุขภาพ ค่าประกันสังคม และอื่นๆ รวมแล้ว แรงงาน 1 คนต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 6,000 บาท หากต้องการแก้ไขปัญหาแรงงานเถื่อน รัฐควรจัดเก็บรายละ 2,000-4,000 บาท ผู้ประกอบการก็สามารถจ่ายได้ และสร้างรายได้ให้กับรัฐได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน" นายประมวลกล่าว

ด้านนายชัยชนะ หมายงาน นักธุรกิจตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชายแดนไทย-กัมพูชา เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวเถื่อน โดยเคยทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2534 เช่น ให้แรงงานต่างด้าวหรือตามแนวชายแดน ที่ใช้หนังสือผ่านแดน (บอร์เดอร์พาส) ซึ่งสามารถขอวีซ่าเข้าเมืองได้ 7 วัน ควรอนุญาตให้เป็น 1-12 เดือน และให้ทำงานได้เฉพาะใน จ.สระแก้ว หรือจังหวัดติดเขตชายแดนเท่านั้น การทำใบอนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้าทำงานในประเทศไทยที่ถูกต้อง รัฐบาลจะได้ประโยชน์ แต่มีเจ้าหน้าที่บางรายไม่ปฏิบัติตาม แม้ว่ามี พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551 แล้ว แต่ก็ไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับรัฐ

"หากแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย รัฐบาลสามารถหาเงินเข้าประเทศได้มหาศาล หรืออาจเป็นไปได้หรือไม่ว่า นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่รู้ว่ามีกฎหมายแรงงาน หรือว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เก่งแต่การกู้เงินต่างประเทศ และรีดเก็บภาษีจากราษฎร แต่ไม่มีแนวทางนำเงินต่างประเทศเข้ามา หากรัฐมนตรีแรงงานไม่สามารถแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวเถื่อนได้ก็ควรลาออก ให้ผู้มีความสามารถเข้ามาบริหารงานแทนจะดีกว่า" นายชัยชนะกล่าว