Thai / English

พนักงานไทยเรดิเอเตอร์กรุ๊ป โอดบริษัทใช้มาตรการตามกฎหมายปลดคนงานออก



03 .. 52
ผู้จัดการ

บริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ ยังทยอยเลิกจ้างไม่หยุด ล่าสุดกลุ่มบริษัทไทยเรดิเอเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ก็เอาด้วย โดยใช้มาตรการตามกฎหมายปลดโละคนงานออกเป็นล็อตแรก ทำพนักงานบางส่วนเสียขวัญหวั่นอนาคตไม่ได้เงินชดเชยติดมือ ชิงร่วมโครงการก่อน ขณะสหภาพแรงงานแฉ บริษัทมัดมือสั่งตัวแทนสหภาพฯ หยุดพักงานจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

วันนี้ (3 มี.ค.) เวลา 09.30 น. นายสำรวย สิงห์ลอ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/121 ม.11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นกรรมการสหภาพแรงงานกลุ่มบริษัทไทยเรดิเอเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 12/4 ม.6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และได้เดินทางมายังบริษัท ทองไชย อุตสาหกรรม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 20/1 ม.1 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ผู้ผลิตตัวถัง (แชสซีส์) และระบบช่วงล่างรถยนต์

รวมทั้งชิ้นส่วนยานยนต์ภายในเครื่องยนต์ ทั้งท่อน้ำ ท่อน้ำมัน ให้แก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน และรถจักยานยนต์คาวาซากิ หลังจากบริษัทได้มีมาตรการเลิกจ้างคนงานออกจากงานจำนวน 280 คน จากทั้งหมดในเครือกว่า 3 พันคน ในการเลิกจ้างพนักงานออกในครั้งนี้ ถือเป็นชุดแรกที่ทางบริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีความประสงค์ที่จะลาออกจากงานด้วยความสมัครใจ โดยที่ได้จ่ายเงินชดเชยตามอายุงานที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้

ก่อนหน้านี้บริษัทได้ใช้มาตรการให้พนักงานบางส่วนหยุดงานชั่วคราว จำนวน 190 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวแทนสหภาพแรงงาน และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเจรจาต่อรองกับบริษัทนายจ้าง โดยที่ทางบริษัทได้จ่ายเงินเดือนให้ระหว่างหยุดงาน เป็นเงินร้อยละ 75 ของเงินเดือน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.52 ที่ผ่านมาเป็นเวลา 15 วัน จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทนสหภาพแรงงาน และยังถือว่าขัดต่อกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ มาตรา 21ที่ห้ามโยกย้ายพนักงานซึ่งเป็นตัวแทนสหภาพฯ อีกด้วย

สำหรับกลุ่มบริษัทไทย เรดิเอเตอร์ กรุ๊ป จำกัด นั้น ได้เปิดดำเนินธุรกิจมานานกว่า 25 ปีแล้ว ที่ผ่านมาทางผู้บริหารระบุว่าสามารถฝ่าฟันวิกฤตการต่างๆทางเศรษฐกิจ มาได้อย่างราบรื่น มาโดยตลอด แต่มาในปีนี้ถือว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จึงจำเป็นต้องหามาตรการ เพื่อทำให้บริษัทสามารถอยู่รอดต่อไปได้ด้วยการลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง

ขณะที่ นายวิเศษ เงินล้วน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 ม.2 ต.แซออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว คนงานผู้ซึ่งสมัครใจลาออกจากงาน เพื่อแรกกับค่าตอบแทนตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ในบริษัทแห่งนี้มานานกว่า 9 ปี แล้ว ที่ตัดสินใจลาออกจากงานในครั้งนี้ เพราะหวั่นเกรงว่าหากอยู่รอต่อไปในอนาคต บริษัทอาจจะไม่มีเงินจ้างพนักงานออกตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าหากวิกฤตจากเศรษฐกิจโลกยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องไม่หยุดต่อไปอีก จึงตัดสินใจรับเงินทุนเป็นเงินก้อนจำนวนกว่า 1 แสนบาทไว้ก่อนดีกว่า ที่อาจจะไม่ได้อะไรเลยหากจะทนอยู่ต่อไป

ขณะนี้ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะไปทำอาชีพอะไร แต่ก็จะออกไปหางานประเภทอื่นทำต่อไป โดยที่ยังจะไม่เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนา