Thai / English

ลูกจ้างฟอร์ด-มาสด้าประท้วงขอโบนัส



19 .. 51
กรุงเทพธุรกิจ

ก.แรงงาน ชี้ข้อขัดแย้งนายจ้าง-ลูกจ้างโรงงานฟอร์ด-มาสด้าไม่จบ เตรียมงัดผลประกอบการโชว์ นายจ้างนัดเจรจาอีกรอบ 24 ธ.ค. ส่วนไทยซัมมิทฯ จบแล้วนายจ้างยอมจ่ายโบนัสคนละ 20-30 วัน รองอธิบดี กรมสวัสดิการปลื้มนายกฯ คนใหม่เห็นปัญหาแรงงาน เชื่อแนวโน้มเลิกจ้างลด ปีหน้าคนตกงานไม่ถึง 1 ล้าน

นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง บริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ฟอร์ดและมาสด้า จ.ระยอง กรณีพนักงานจำนวนกว่า 400 คนชุมนุมประท้วงเรียกร้องเงินโบนัส ว่า กสร.ได้เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้เพราะนายจ้างก็ยังยืนยันที่จะจ่ายให้พนักงาน 6 เดือน บวกเงินพิเศษประมาณเดือนละ 1.4 หมื่นบาท แต่พนักงานไม่ยอมต้องการมากกว่านั้น โดยอ้างว่าผลประกอบการของบริษัทว่ามีกำไรจำนวนหลายล้านบาท อย่างไรก็ตามจะนัดลูกจ้างและนายจ้างเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 24 ธ.ค.นี้

“เราเป็นตัวกลางที่จะช่วยไกล่เกลี่ย ก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน ไม่อยากให้ยืดเยื้อต้องเอาความจริงมาพูดกัน ซึ่งหากตั้งอยู่บนความไม่เชื่อใจกันแล้วปัญหาจะไม่จบสิ้น พนักงานก็จะไม่ได้เข้าทำงาน นายจ้างเองก็จะประสบปัญหาด้านการผลิตอาจขาดทุนได้ แต่ดูท่าทีแล้วไม่จบง่ายๆ ดังนั้นเราในฐานะคนกลางจะนำข้อมูลผลประกอบการที่แท้จริงให้ทั้งสองฝ่ายดูและทำความตกลงกันในวันที่ 24 ธ.ค.หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ ลงเอยกันด้วยดี” นายอาทิตย์ กล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีบริษัทไทยซับมิด ออโต้บอดี อินดัสทรี่ จำกัด จ.สมุทรปราการ สรุปว่านายจ้างยินยอมที่จะจ่ายเงินโบนัสให้ตามคำเรียกร้องของลูกจ้างโดยจ่ายให้เฉลี่ยคนละ 20-30 วัน หลังจากการไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ซึ่งพนักงานที่ได้รับเป็นพนักงานรับเหมาช่วงจำนวน 400 คน โดยจะจ่ายให้ภายในเดือน ธ.ค.นี้

“ตอนนี้พนักงานรับเหมาช่วงทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า 1.3 แสนคนโดยเฉพาะในกิจการยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ กำลังกังวลเรื่องการถูกเลิกจ้าง ทุกคนจึงอยากคุยกับนายจ้าง แต่การใช้วิธีประท้วง เรียกร้องเป็นเรื่องที่ไม่ควร เนื่องจากนายจ้างเองก็ไม่เต็มใจ และเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างถาวรในอนาคต และกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนของนักลงทุน ดังนั้นต้องเข้าใจกัน ดูผลประกอบการของนายจ้างด้วย นายจ้างเองก็ต้องพูดความจริง โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติเช่นนี้ หากมีปัญหาให้ยื่นข้อเรียกร้องและเจรจาตามลำดับจะดีกว่า” นายอาทิตย์ กล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศและให้ความสำคัญกับปัญหาแรงงาน ทำให้ทุกคนมั่นใจ ไม่ถูกทอดทิ้ง และการออกนโยบายสนับสนุนเงินเข้าสู่ระบบนั้นจะทำให้ระบบการลงทุน การใช้จ่าย การจ้างงาน ภายในประเทศดีขึ้นตามลำดับ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องคิดว่าปัญหาที่กำลังวิกฤติอยู่ขณะนี้จะคลี่คลายไปตามลำดับ ตัวเลขการเลิกจ้างคนงานจะลดลง การไกล่เกลี่ยเจรจาก็จะทำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าในปี 52 จะมีคนว่างงาน คนตกงานมากถึง 1-2 ล้านคนเชื่อว่าคงไม่ถึงอย่างแน่นอน

ด้านนายสมชาย วงศ์ทอง ผู้อำนวยการสำนักแรงงานสัมพันธ์ กสร. กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกจ้างร้องเรียนเรื่องเงินโบนัสหรือเงินพิเศษประจำปีมายังกรมสวัสดิการมากพอสมควร ซึ่งทางกระทรวงแรงงานจะเข้าไปทำการไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติซึ่งเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ซึ่ง กสร.จะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะมีการรายงานทันที