Thai / English

เจรจาพิพาทแรงงาน ‘ไทยพาณิชย์’ ครั้งที่ 2 ยังไม่คืบ



02 .. 51
ประชาไท

ตามที่สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ (สร.ธทพ.) ได้ยื่นข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงาน 11 ข้อ และไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ อู่มั่น ประธานสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมพนักงานกว่า 100 คน ได้ชุมนุมกันที่หน้าสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และประกาศว่าจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าว ยื่นพิพาทแรงงานในวันที่ 21 ม.ค. ให้กระทรวงแรงงานเป็นตัวกลางในการพิจารณาต่อไป และหากยังไม่สามารถตกลงกันได้อีก สหภาพแรงงานจะประชุมเพื่อขอมติจากสมาชิกนัดหยุดงานประท้วงต่อไป

ล่าสุด ทางฝ่ายสหภาพแรงงานมีการยื่นพิพาทแรงงานแล้ว และมีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานไปแล้ว 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 21 และ 29 ม.ค. ที่สำนักแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

โดยการเจรจาครั้งที่ 2 เมื่อ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางสหภาพเสนอให้ 1.ปรับฐานเงินเดือนให้พนักงานทุกคน 1,000 บาท และค่าตอบแทนพิเศษที่เชื่อมโยงกับมูลค่าหุ้นของธนาคาร 2.5 เดือน หากไม่ได้รับการพิจารณา สหภาพแรงงานฯ ขอยืนยัน การปรับฐานเงินเดือนเป็น 1,500 บาท

2.เงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 3 เดือน จ่ายเดือนมิถุนายน 1.5 เดือน และเดือนธันวาคม 1.5 เดือน 3.ค่าเล่าเรียนบุตรแผน ข เบิกได้ปีละไม่เกินปีละ 4,000 บาท ต่อบุตร 1 คน ทั้งนี้ใช้สิทธิ์ได้ไม่เกิน 2 คน จนถึงระดับปริญญาตรี และ 4.ค่ารักษาพยาบาลสถานพยาบาลเอกชน แผน ก เบิกได้ไม่เกิน 2,500 บาทต่อไป และค่าทันตกรรมปีละไม่เกิน 2,000 บาท

อย่างไรก็ตามฝ่ายผู้บริหารธนาคารยังไม่ยอมตกลง และอ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ ต้องนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารธนาคารพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ. แล้วจะให้คำตอบในวันที่ 15 ก.พ.

พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน จึงนัดไกล่เกลี่ยครั้งต่อไปในวันที่ 15 ก.พ. เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักแรงงานสัมพันธ์ ชั้น 2 กระทรวงแรงงาน โดยทางสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ขอเสนอให้ตั้งผู้ชี้ขาดตามมาตรา 26 แห่ง พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 หากไม่สามารถตกลงกันได้

และเมื่อ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่ แถลงการณ์สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ 4/2551 ในเว็บไซต์ของสหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุความคืบหน้าของการเจรจา และยังได้กล่าวถึงเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้สหภาพแรงงานพิจารณาในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษที่เชื่อมโยงราคาค่าหุ้น (Deferred Bonus) ที่จะจ่ายในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยนำค่าตอบแทนพิเศษที่เชื่อมโยงราคาหุ้น (Deferred Bonus) มาจ่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนให้สหภาพถอนข้อเรียกร้องนั้น

ในแถลงการณ์ชี้แจงว่า “สหภาพไม่สามารถรับเงื่อนไขดังกล่าวได้ เพราะเงินดังกล่าวถือเป็นสภาพการจ้างที่พนักงานทุกคนจะได้รับอยู่แล้วในงวดเดือนเมษายน ธนาคารจะจ่ายช้าหรือเร็วก็ต้องจ่ายเพราะเป็นเงินของพนักงาน ในส่วนสวัสดิการที่ธนาคารชี้แจงเพิ่มเติมนั้นก็เกิดจากการผลักดันของสหภาพแรงงานทั้งสิ้น”

นอกจากนี้ตอนท้ายของแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้พนักงานรับฟังการชี้แจงข้อพิพาทแรงงานทุกครั้งที่สหภาพจัดให้มีการชี้แจง เพื่อให้ข้อเรียกร้องประสบผลสำเร็จ และยืนยันว่าการรับฟังการชี้แจงข้อพิพาทแรงงานเป็นสิทธิของพนักงานและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หากมีผู้บังคับบัญชาห้ามไม่ให้รับฟัง

โดยอ้างว่ามีการถ่ายวิดีโอไว้หากนำมาดูพบใครจะไม่ได้รับการพิจารณาความดีความชอบประจำปีนั้น แถลงการณ์ของสหภาพระบุว่าให้สมาชิกและพนักงานอัดเสียงโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วนำมาให้สหภาพดำเนินการตามกฎหมายต่อไป