Thai / English

พนักงานโฮยาชุมนุมข้ามคืน-รอเจรจานายจ้างสำเร็จ แกนนำย้ำ ‘นี่ไม่ใช่ชัยชนะ’



26 .. 51
ประชาไท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 50 พนักงาน บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง 13 ข้อ พร้อมลงลายมือชื่อกว่า 3,286 รายชื่อ ต่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน

และต่อมามีการเจรจากับนายจ้างครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ไม่มีความคืบหน้า และพนักงานได้ลงมติยื่นพิพาทแรงงานเมื่อวันที่ 22 ม.ค. และมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานครั้งที่ 1 ระหว่างทาง บจก.โฮยา กับ ผู้แทนเจรจาฝ่ายลูกจ้าง ที่ห้องประชุม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ลำพูน โดยเริ่มเจรจาตั้งแต่เวลา 9.30 น. ของวันที่ 24 ม.ค. และผลการเจรจามีความคืบหน้าไปกว่า 9 ข้อนั้น

ไกล่เกลี่ยนัด 2 -นายจ้างรับข้อเรียกร้องครบ 13 ข้อ แต่ไม่เซ็นง่ายๆ

ล่าสุด วานนี้ (25 ม.ค.) ได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ลำพูน เช่นเดิม โดยการเจรจาในวันนี้มีการตกลงอีก 4 ข้อ คือข้อ 3, 8, 10 และ 11 และนำข้อเรียกร้องที่มีการตกลงทั้ง 13 ข้อ บันทึกเป็น ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง โดยสามารถตกลงได้ในเวลาประมาณ 17.00 น.

อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานครั้งที่ 2 ตัวแทนเจรจาฝ่ายนายจ้างยังไม่ยอมลงลายมือชื่อในเอกสาร ‘ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง’ ทันที โดยให้เหตุผลว่าต้องขอความเห็นจากที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัท และต้องแปลข้อเสนอปรับสภาพการจ้างทั้งหมดเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยและเปรียบเทียบกับภาษาไทยอีกครั้ง เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว ฝ่ายนายจ้างจึงจะยอมลงลายมือชื่อ ด้วยเหตุนี้ขั้นตอนการลงลายมือชื่อจึงเป็นไปอย่างล่าช้า

ชุมนุมยื้อรอผลเจรจา แกนนำรายงานสถานการณ์เป็นระยะ

ขณะที่หน้าโรงงาน บจก.โฮยา กลาสดิสค์ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน หลังเวลา 17.00 น. พนักงานได้เริ่มออกมาชุมนุมหน้าบจก.โฮยา เพื่อรอฟังผลเจรจา โดยในวันนี้พนักงานยังคงเลิกการทำโอทีทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน รวม 8 ชั่วโมง เช่นเดิม

ระหว่างที่พนักงานกว่า 2,000 คนชุมนุมรอฟังผลการเจรจา ได้มีการเล่นดนตรีให้กำลังใจการต่อสู้โดยเพื่อนพนักงาน สลับกับการรายงานสถานการณ์เจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุม สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ลำพูน เป็นระยะ

กระทั่งเวลา 20.00 น. พนักงานที่ต้องทำงานช่วงกลางคืนได้ทยอยเข้าไปทำงานในโรงงาน เหลือแต่พนักงานช่วงกลางวันที่ชุมนุมรอฟังผลการเจรจาประมาณ 400 คน และในเวลาประมาณ 23.00 น. มีพนักงานช่วงกลางคืนที่อยู่ในช่วงพักออกมารอฟังผลการเจรจาที่ริมรั้วภายในโรงงานและบริเวณที่ชุมนุมด้วย

โดยแกนนำบนเวทีได้เชิญชวนให้พนักงานอย่าเพิ่งกลับที่พัก ขอให้รอฟังผลการเจรจาร่วมกัน และกล่าวว่า “ขอให้พวกเราฮักแพงกันเหมือนข้าวเหนียวปั้นก้อน”

เที่ยงคืนนายจ้างยอมลงลายมือชื่อ แกนนำรุดชี้แจงผลเจรจากับพนักงาน

กระทั่งการเจรจาไกล่เกลี่ยอันยาวนานได้สิ้นสุดลง หลังจากผู้แทนเจรจาฝ่ายนายจ้างยอมลงลายมือชื่อ หลังจากพิจารณาความถูกต้องของเอกสารแล้ว ในเวลาเกือบ 24.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค. และในเวลา 00.20 น. ของวันนี้ (26 ม.ค.) แกนนำพนักงานที่เป็นผู้แทนเจรจาทั้ง 7 ได้มาถึงที่ชุมนุม โดยนายอัครเดช ชอบดี กรรมการสหภาพแรงงานอิเล็คทรอนิคส์และเครื่องไฟฟ้าสัมพันธ์ (สอฟส.) และผู้แทนเจรจาได้อ่านผลการเจรจาทั้ง 13 ข้อที่มีการบันทึกเป็นข้อตกลงสภาพการจ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้

http://www.prachatai.com/05web/th/home/10998

แกนนำชี้ถ้าไม่ต่อสู้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

นายอัครเดช ชอบดี กรรมการสหภาพแรงงาน สอฟส. กล่าวว่า จากวันที่เราร่วมต่อสู้กันมา 11 ธ.ค. ถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสองเดือน เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง คิดดูถ้าเราไม่สู้ ถ้าเราไม่ยื่นข้อเรียกร้อง ถ้าเราไม่มีสหภาพแรงงาน เราจะมีวันนี้หรือไม่ เราจะได้ดื่มน้ำร้อนหรือไม่ เราจะได้ค่าน้ำมันรถ 35 หรือ 20 บาทเท่าเดิม ทั้งที่ราคาน้ำมันรถขึ้นเอาๆ สิ่งนี้คือส่วนหนึ่งของสหภาพแรงงานว่าด้วยข้อเรียกร้อง ทุกอย่างได้มาด้วยการต่อสู้ วันนี้ทุกท่านได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเราได้ร่วมกันต่อสู้ สิ่งที่ทำมาทั้งหมดไม่ใช่ผลงานของทีมเจรจา 7 คน หรือกรรมการสหภาพแรงงาน หรือผู้ปฏิบัติงาน แต่เป็นผลงานของทุกคนที่ได้ร่วมกัน

นายธาดา ธิมาเกตุ กรรมการสหภาพแรงงาน สอฟส. กล่าวว่า ขอให้จดจำกันไว้ว่าเพื่อนๆ ที่นั่งกันอยู่ที่นี่คือเพื่อนตาย คือเพื่อนผู้ใช้แรงงานที่ต่อสู้ร่วมกันมาโดยตลอด นี่คือระบบแรงงานสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน ถ้าไม่ทำแบบนี้เราจะเห็นหน้าค่าตากันไหม เราจะรู้จักกันไหม พี่น้องที่ทำงานในแต่ละโรงงานนั้นเราได้มารู้จักกันแล้ว ขอให้ถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนามกันไว้ เพราะยังต้องทำกิจกรรมร่วมกันอีกมาก

“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีแพ้และชนะ เป็นการต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน เป็นสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ที่มันถูกกดดันมานาน ได้ถูกแก้ไขส่วนหนึ่งแล้วในวันนี้ ขอให้รักกันสมานฉันท์กันไว้มากๆ เพราะพวกเราต้องทำกิจกรรมร่วมกันอีกมาก ขอย้ำว่าไม่ใช่การต่อสู้เพื่อแพ้และชนะ แต่ต่อสู้เพื่อให้เรารักกัน” กรรมการสหภาพแรงงานผู้นี้กล่าว

ประธาน สอฟส. ขอบคุณเพื่อนพนักงานทุกคนที่ร่วมต่อสู้

นายศรีทน เปรื่องวิชาธร ประธานสหภาพแรงงาน สอฟส. กล่าวว่า นับตั้งแต่วันแรกที่เราลงลายมือชื่อเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้อง จนถึงวันนี้ ปัญหาต่างๆ จากผู้ใช้แรงงานได้ส่งถึงผู้บริหารโดยตรง และวันนี้เรามีสหภาพอิเล็คทรอนิคส์และเครื่องไฟฟ้าสัมพันธ์แล้ว แม้วันเวลาเปลี่ยนไปนับจากวันที่ 11 ธ.ค. แต่พวกเรายังเหนียวแน่น อย่างที่เคยบอกว่าพวกเราเคียงบ่าเคียงไหล่เดินไปพร้อมๆ กัน และขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่น้อง ผู้ใช้แรงงานที่ร่วมต่อสู้ทุกคน

โดยประธานสหภาพแรงงาน สอฟส. ได้นัดหมายชี้แจงรายละเอียด ผลการเจรจาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเย็นวันนี้ (26 ม.ค.) และพนักงานได้สลายการชุมนุมไปโดนสงบในเวลาประมาณ 1.00 น. ของวันนี้ (26 ม.ค.)

สรุปผลการเจรจาข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ยื่นต่อ บจก.โฮยากลาสดิสค์ (ประเทศไทย) เปรียบเทียบกับ บันทึกเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หลังการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงานครั้งที่ 2 วันที่ 25 มกราคม 2551

http://www.prachatai.com/05web/th/home/10998