Thai / English

หอฯภูธรเชื่อศก.พัง.! ‘อัญมณี-ประมง’ตายสนิท - ลอยแพแรงงาน


ผู้จัดการ
04 .. 50
ผู้จัดการ

หอการค้าฯทั่วประเทศประสานเสียงศก.ยังชะลอตัวค่าเงินบาทกระทบส่งออกหนัก โรงงานจ่อปิดตัวจำนวนมาก-แรงงานอาจถูกลอยแพ ทั้งกำลังซื้อในประเทศหดหาย พร้อมย้ำอย่าชะล่าใจไม่ซ้ำร้อยวิกฤตปี2540 แต่อาจเกิด “วิกฤตใหม่”ที่ใหญ่กว่า ชี้ปัจจัย “เลือกตั้ง”จะทำให้ทุกอย่างเข้าที่นักลงทุนทั้งใน-นอกเริ่มเชื่อมั่นศก.ไทย

ผ่านไป 7 เดือนดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเริ่มปรับตัวเข้าใกล้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือตัวเลขจีดีพีเติบโตถึง 4.5% และยอดการส่งออกก็จะสามารถขยายตัวได้ถึง 12.5% ในสิ้นปีนี้ เพราะทั้งศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่างออกมาปรับตัวเลขเศรษฐกิจของไทยใหม่ในอัตราที่เพิ่มขึ้นและสอดคล้องกันพร้อมกันนี้ Mr.Rodrigo de Rato กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของเมืองไทยว่าจะไม่ซ้ำร้อยกับวิกฤติการณ์ในปี 2540 ทั้งสนับสนุนให้ธปท.ออกมาแทรกแซงค่าเงินบาทได้หากมีความผันผวนค่าเงินจนสามารถควบคุมได้ ด้านภาคเอกชนที่อยู่ในภาคธุรกิจนำเข้า-ส่งออกจริงๆยังสับสนกับเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ของประเทศเพราะผลประกอบการที่ได้รับกลับขาดทุนหรือทรงตัวจากอัตราการแลกเปลี่ยน เพราะบางธุรกิจก็ได้รับผลกระทบจนต้องย้ายฐานไปแล้ว แต่เชื่อได้ว่าไทยไม่มีทางซ้ำรอยเดิมเศรษฐกิจปี 2540 แต่อาจจะเป็น“รอยใหม่” ที่กำลังเกิดขึ้นก็ได้

ชายแดน‘เชียงราย’ยังสะพัดหมื่นล้าน !

พัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายมองว่า เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงเชียงรายรายได้หลักจะมาจาการค้าขายชายแดนทางแม่น้ำโขงซึ่งจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่ออย่างหลักเหลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะธุรกิจที่พึ่งพาการส่งออกโดยเฉพาะด้านสินค้าการเกษตร และสินค้าแปรรูปแต่เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่ก.ค.ที่ผ่านมาการค้าผ่านลำน้ำโขงก็กลับมาคึกคักขึ้นเพราะสามารถนำเรือสินค้าเข้ามามากขึ้นทำให้ 5 เดือนจากนี้ไปคาดว่าการค้าขายน่าจะกลับมาดีขึ้นและได้ตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 11,000ล้านบาทขณะที่ธุรกิจภาคบริการและการท่องเที่ยวยังได้รับอานิสงค์จากเมืองเชียงใหม่ที่จัดงานพืชสวนโลกในช่วงต้นปีมีประชาชนเข้าท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายมากขึ้น

อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการเชียงรายได้ปรับตัวรับมือสถานการณ์มาตลอดเห็นได้จากผู้ส่งออกจำนวนมากได้ทำฟลอเวิร์ดค่าเงินและปรับปรุงร้านค้าเพื่อสู้กับธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติซึ่งได้ผลดีในระดับที่น่าพอใจทำให้ภาคธุรกิจในจังหวัดได้รับผลกระทบไม่มีมากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

“ผมเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำร้อยปี 2540 เพราะปัจจัยลบที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้มันแตกต่างกับเมื่อปี 2540 อย่างมาก”ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ระบุ และว่าอย่างไรก็ตามภาคการเกษตรของจังหวัดเชียงรายน่าห่วงเพราะพื้นที่การเกษตรเชียงรายมีมากถึง 1,000,000 ไร่แต่สามารถนำมาใช้เพื่อการเกษตรจริงแค่ 30% และยังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งมาตลอดซึ่งได้นำเสนอต่อทางภาครัฐหลายครั้งแล้วแต่ยังภาครัฐยังไม่สนใจที่จะลงมาดูแลแก้ไขปัญหาประชาชนได้อย่างแท้จริง

แม่สอดส่งออกตกฮวบ 20%

ด้านสถานการณ์การค้าชายแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ประธานหอการค้าจังหวัดตาก “อำพล ฉัตรไชยาฤกษ์” ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 ตัวเลขการค้าลดลงกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2549 มูลค่าการส่งออกตกลงเหลือเดือนละ 600-700 ล้านบาทจากที่เคยส่งออกเดือนละ 1,000-1,300 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ตัวเลขการค้าลดลงไปแล้ว1,600 ล้านบาท และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2550 ยังไม่มีทีท่าว่าจะกระเตื้องขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง หรือมีสิ่งบอกเหตุที่ทำให้สถานการณ์การค้าดีขึ้น สาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขส่งออกการค้าชายแดนลดลงมาจาก 5 ปัจจัยหลัก คือ 1.เงินจ๊าดพม่าตกลงเหลือเพียง 100 จั๊ต แลกเงินบาทได้เพียง 2.80 บาททำให้ดูเหมือนว่า สินค้าไทยราคาแพง 2.ไทยกำลังถูกประเทศจีนเข้าไปตีตลาด ซึ่งมีสินค้าลอกเลียนแบบ และราคาสินค้าจีนถูกกว่าสินค้าไทย 20-30% ทั้งๆ ที่คุณภาพสู้ไทยไม่ได้ แต่ชาวพม่าเห็นว่าราคาถูกกว่า3.พม่าจัดระเบียบการค้าชายแดนและมีการเข้มงวด รวมไปถึงการจับกุมสินค้าไทย และยังมีการจับกุมพ่อค้าพม่าที่สั่งซื้อสินค้าจากไทย 4.เมื่อสะพานมิตรภาพไทย-พม่าชำรุดมีรอยเลื่อนเคลื่อนตัวต้องมีการซ่อมแซมกรมทางหลวงสั่งห้ามรถบรรทุกผ่านจึงต้องทยอยทอยสินค้าลงรถบรรทุกเล็กส่งผลให้ต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น และ 5.ปัญหาของชนกลุ่มน้อย ที่ยังมีการต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลตามแนวชายแดน

“ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างสูงต่อตัวเลขการส่งออกสินค้าไปพม่าจึงขอให้รัฐบาลเร่งเข้าไปแก้ไขโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศหรือเจรจาระหว่างผู้นำรัฐบาล”ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ระบุ

อุบลฯการค้าชะลอตัว

เชื่อหลัง “เลือกตั้ง” ศก.ดีขึ้น

ส่วนด้านการค้า-การลงทุนในเขตอีสานใต้จังหวัดที่น่าจะสะท้อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีคือจังหวัดใหญ่อย่างอุบลราชธานี“ชวลิต องควานิช”ประธานสภาหอการค้าจังหวัดอธิบายว่า ภาคธุรกิจในจังหวัดขณะนี้กำลังชะลอตัวในภาพรวมแม้จะมีการค้าขายชายแดนต่อปีที่ 3,000 ล้านต่อปีผ่านไป 6 เดือนการค้าผ่านชายแดนก็ประมาณ 1,500ล้านจึงทำให้มั่นใจว่ายอดการค้าชายแดนยังสามารถทำได้ตามเป้า ส่วนการลงทุนขณะนี้มีบริษัทใหญ่สนใจลงทุนตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพื่อผ่านชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เวียดนาม และ กัมพูชา นอกจากนี้โครงการคอนแทร็กฟาร์มมิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวก็คืบหน้าโดยในเดือนมี.ค.2551 จะสามารถนำเครื่องจักรมาลงในพื้นที่เพื่อผลิตเอธานอลได้วันละ 700,000 ลิตรโดยต้องใช้วัตถุดิบถึง 42,000 ตัน/วันซึ่งวัตถุดิบจะมาจากไทยและเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้แล้วภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดมียอดนักท่องเที่ยวถึงปีละ 1,300,000คน/ปีซึ่งขยายตัวมากกว่า 10% ในปีนี้แต่หากดูการใช้จ่ายของประชาชนในจังหวัดถือว่ายังชะลอตัวผู้บริโภคยังกังวลกับปัญหาเศรษฐกิจกำลังซื้อในจังหวัดจึงมีไม่มากซึ่งทางภาครัฐต้องเร่งลดอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนเพราะจะกระทบต่อผู้ส่งออกและผู้บริโภคทำให้เศรษฐกิจไม่โตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

“เชื่อว่าหากการเมืองนิ่งมีการเลือกตั้งในปลายปีจะทำให้ทุกอย่างเข้าที่ภาวะเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนและต่างชาติ” ประธานหอการค้าอุบล ระบุ

อัญมณี-ประมงตายสนิท !

ผู้ประกอบการส่อย้ายฐานไป “จีน-ฮ่องกง”

ขณะที่จังหวัดจันทบุรีอีกหัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว ผลไม้ และ อัญมณีได้รับผลกระทบจากการส่งออกและอัตราการแลกเปลี่ยนอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้เพราะธุรกิจส่วนมากในจังหวัดพึ่งพาการส่งออกโดยเฉพาะธุรกิจอัญมณีและฟาร์มเลี้ยงกุ้งที่ตอนนี้ผู้ประกอบการรายเล็กจำนวนมากปิดตัวไปแล้ว ขณะที่นักธุรกิจอัญมณีจากแอฟริกาใต้ก็อาจจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศจีน หรือ ประเทศฮ่องกงแทนเพราะแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว แต่พ่อค้าผลไม้ในปีนี้ถือว่ายังโชคดีที่ฤดูการค้าขายค่าเงินบาทยังอยู่ในช่วง34-35 บาทจึงไม่รับผลกระทบแต่อย่างใด

นอกจากนี้แล้วในรอบ 5 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการลงทุนเกิดขึ้นเศรษฐกิจในเมืองจันทน์จึงมีแต่ทรงกับทรุดเท่านั้น เพราะกำลังซื้อในจังหวัดก็ไม่มีด้านการส่งออกที่เคยเป็นรายได้ก็ไม่สามารถทำกำไรได้ตามเป้าผู้ประกอบการอัญมณี-ประมงจึงได้แต่ทำใจกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

หวั่นเกิด “รอยใหม่” ใหญ่กว่าปี’40

“ผมยังมองไม่เห็นทางว่าว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้อย่างไรแม้จะมีตัวเลขส่งออกกว่า 18% แต่ผู้ประกอบการหลายธุรกิจกำลังจะเจ๊งขณะที่เงินทุนจำนวนมากไหลเข้าตลาดหุ้นแต่ภาคการส่งออกกลับได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถึงแม้หลายฝ่ายจะมองว่าเศรษฐกิจบ้านเราจะไม่มีทางซ้ำร้อยปี 2540 นี่อาจจะเป็นรอยใหม่ที่ใหญ่กว่ากำลังก่อตัวก็ได้” ปราโมช ร่วมสุข ประธานหอการค้าจังหวัด จันทบุรี กล่าวยืนยัน

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจในไตรมาส 4 อาจจะหายไข้เพราะการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในปลายปีนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นต่อการค้า-การลงทุนในประเทศกลับมาตื่นตัวอีกครั้งขณะที่ผู้บริโภคก็น่าจะหันมาใช้จ่ายตามปกติไม่ห่วงหน้าพะวงหลังต่อภาวะเศรษฐกิจอีกต่อไป

ส่งออกสะดุด - ธุรกิจเจ๊ง !

เชื่อ“แรงงาน”จ่อตกงานจำนวนมาก

กู้เกียรติ ดำรงวิริยะนุภาพ ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา มองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ สะท้อนปัญหาว่าสภาพคล่องเศรษฐกิจหายไปเนื่องจากเม็ดเงินหายออกไปจากระบบกว่า 50% ทั้งนี้จากการติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องพบว่าเศรษฐกิจเริ่มย่ำแย่สังเกตได้จากโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เริ่มมีการปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องหลายแห่ง โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกที่ไม่สามารถส่งออกได้ตามปกติดังที่เคยอาจจะด้วยเหตุผลค่าเงินบาทที่แข็งตัวมากขึ้น มาตรการการกีดกันทางการค้าของต่างประเทศ ทำให้ส่งออกติดขัดปริมาณสินค้าส่งออกลดลงเมื่อธุรกิจไม่ดีขึ้นจึงต้องปิดโรงงานและส่งผลให้แรงงานจำนวนมากต้องตกงาน

นอกจากนี้แล้วปัญหาการส่งออกดังกล่าวส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจท้องถิ่นหลายแห่งได้รับผลกระทบตามไปด้วย สำหรับในพื้นที่จังหวัดพะเยาพบว่าประชาชนมีรายจ่ายสูงขึ้นแม้ว่ารายได้อาจจะคงที่หรือมากขึ้นแต่เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้นราคาสินค้าสูงตามเป็นผลให้เงินคงเหลือสำหรับใช้จ่ายแต่ละคนและครัวเรือนจึงมีน้อยลงตาม ส่วนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เช่น โรงงานขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นยังไม่ได้รับผลกระทบในระยะแรกสามารถประคองตัวไปได้เรื่อยๆแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีความยั่งยืนได้นานเพียงใดหากเศรษฐกิจยังผันผวนไม่มีเสถียรภาพ