Thai / English

ฉันทนาทำใจบ.ไทยศิลป์ฯจอด แบงก์ปัดปล่อยกู้-รามาชูส์ต่อคิว


คมชัดลึก
19 .. 50
คมชัดลึก

ไทยศิลป์ฯ ถังแตก ส่อปิดรอบ 2 หลังแบงก์ปฏิเสธไม่ปล่อยเงินกู้ สั่งประกบนายจ้าง หวั่นหนี ลุ้น 20 ก.ค.นี้ ชี้ชะตาลูกจ้างจ่ายเงินค่าชดเชย ขู่นายจ้างเบี้ยวเจอคุก 6 เดือน ปรับ 2 แสนบาท โรงงานรามาชูส์จ่อเลิกจ้าง เหตุไนกี้ลดออเดอร์เหลือ 50% ขณะที่“โฆสิต” ปัดหาเงินกู้ให้ไทยศิลป์ฯ ต้องเจรจากับแบงก์เอง ลูกจ้างทำใจหากบริษัทต้องปิดอีกรอบ เตรียมกลับบ้านเกิดทำนา-รับจ้างเย็บผ้าโหล

นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แถลงความคืบหน้ากรณีปัญหาบริษัท ไทยศิลป์อาคเนย์ อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ว่า รายงานล่าสุดถึงเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม นายจ้างบริษัทไทยศิลป์ฯ ยังคงไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ได้ อยู่ระหว่างรอผลจากธนาคารที่ไปยื่นขอกู้ไว้ว่าจะได้รับข่าวดีหรือไม่ ในวันที่ 19 กรกฎาคม หากปัญหาการเงินของบริษัทยังไม่ได้รับการแก้ไข บริษัทคงมีปัญหาในการจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม หากวันที่ 20 กรกฎาคม นายจ้างไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง ต้องมีความชัดเจนในการตัดสินใจแล้วว่า จะปิดกิจการ หรือจะเดินหน้าต่อ แล้วจะมีแผนอย่างไร หากจะหยุดกิจการ นายจ้างต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง ซึ่งหากบอกเลิกจ้างในวันที่ 20 กรกฎาคม ก็จะมีผลเลิกจ้างในวันที่ 5 สิงหาคม และจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง

เบี้ยวจ่ายเจอคุก 6 เดือน ปรับ 2 แสน

“บริษัทไทยศิลป์ฯ มีงวดการจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 7 และ 20 สำหรับลูกจ้างรายเดือน ส่วนลูกจ้างรายวัน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ 70-80% นัดจ่ายวันที่ 23 ของเดือน ถ้าผิดนัดการจ่ายค่าจ้าง ลูกจ้างต้องไปยื่นคำร้องให้เจ้าหน้าที่แรงงานตรวจสอบ ซึ่งการไม่จ่ายค่าจ้างมีโทษทางอาญาด้วย ทั้งจำทั้งปรับ คือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท” อธิบดีกรมสวัสดิการฯ กล่าวและว่า นายจ้างถ้าเห็นว่าจะไปไม่รอดแล้ว ต้องบอกลูกจ้างล่วงหน้าอย่างช้าภายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ และต้องรับผิดชอบจ่ายค่าจ้าง 1 งวด ตามกฎหมาย

นายผดุงศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิด นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างตามอายุงานของลูกจ้าง ได้แก่ อายุงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี จ่าย 30 วัน อายุงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี จ่าย 90 วัน อายุงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จ่าย 180 วัน อายุงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี จ่าย 240 วัน อายุงานครบ 10 ปีขึ้นไป จ่าย 300 วัน กรณีที่นายจ้างไม่บอกเลิกจ้าง แต่ถ้าไม่มอบหมายงานให้ลูกจ้างทำ และไม่จ่ายค่าจ้าง ก็ถือว่าเป็นการเลิกจ้างเช่นกัน

ขอลูกจ้างอย่าปิดถนนไปรวมตัวที่ปากน้ำ

อธิบดีกรมสวัสดิการฯ กล่าวว่า ขอส่งสัญญาณถึงลูกจ้างในวันที่ 20 กรกฎาคม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าปิดถนน และหากโรงงานไม่เปิดให้เข้า ขอให้ไปรวมกันที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการแทน โดยตนได้เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะลงไปสนับสนุนในการรับเรื่องให้เพียงพอกับจำนวนลูกจ้าง และขอเตือนลูกจ้างให้รู้ถึงสิทธิในการได้รับค่าชดเชย หากนายจ้างบอกกล่าวล่วงหน้า หรือแม้จะปิดกิจการ ไม่มีการป้อนงานให้ทำ แต่ก่อนที่การเลิกจ้างจะมีผล ลูกจ้างจะต้องไม่ขาดงานเกิน 3 วัน เพื่อไม่ให้นายจ้างยกเป็นข้อต่อสู้ในการไม่จ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายได้ โดยอ้างว่าลูกจ้างทำผิดตามมาตรา 119 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ที่ลูกจ้างทำผิด ขาดงานไม่มีเหตุผล และไม่ติดต่อนายจ้างเกิน 3 วัน ซึ่งกระทรวงได้เตรียมตำแหน่งไว้รองรับหากไปทำงานที่อื่น ขอให้มั่นใจก่อนว่าได้ยื่นคำร้องเรื่องรับค่าชดเชยต่อพนักงานตรวจแรงงานเรียบร้อยแล้ว สำหรับลูกจ้างที่ทำงานไม่ครบ 120 วัน ได้ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า

ด้านนายศักดา เทพเจริญนิรันดร์ หัวหน้าสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวยอมรับว่า กรณีบริษัทไทยศิลป์ฯ ส่งสัญญาณไม่ค่อยดี เพราะนายจ้างและที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทตัดขาดการติดต่อ ไม่เปิดโทรศัพท์มือถือ และข้อมูลทราบว่า นายจ้างถูกธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่งปฏิเสธไม่ปล่อยเงินกู้ แม้สมาคมสิ่งทอฯ จะเป็นตัวกลางช่วยเจรจาก็ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม จะประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ส่งเจ้าหน้าที่ประกบไม่ให้นายจ้างหลบหนี สำหรับจำนวนลูกจ้างในบริษัทไทยศิลป์ฯ ล่าสุดเหลืออยู่ประมาณ 4,400 คน

“โฆสิต” ปฏิเสธไม่เคยรับปากหาเงินให้

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ทางรัฐบาลไม่ได้รับปากในการจะเข้าไปดูแลเรื่องเงินกู้ของบริษัทไทยศิลป์ฯ แต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่บริษัทต้องเจรจากับธนาคารเอง อย่างไรก็ตาม ได้ประสานงานกับ นายอภัย จันทนจุลกะ รมว.แรงงาน ในการแก้ปัญหาว่าจะดูแลเรื่องคนงานอย่างไร โดยในส่วนของโรงงานสิ่งทอและเสื้อผ้า มีข่าวดีจาก รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า มี 4 โรงงานของไทยปรับปรุงการผลิตจนได้การรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ซึ่งหากโรงงานอื่นๆ ปฏิบัติตาม จะทำให้สิ่งทอของไทยสามารถแข่งขันได้มากขึ้น ส่วนการดูแลสถานการณ์ค่าเงินบาทนั้น ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือกับ รมว.การคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งภาคเอกชนด้วย และในวันที่ 23 กรกฎาคม ก็จะประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนรวม ทุกประเด็นที่หารือกันจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารหน้า อย่างไรก็ตาม เห็นว่า หากขณะนี้ ธปท.จะประกาศมาตรการใดออกมาเพื่อชะลอการแข็งค่า ก็เป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ทันที เช่น การให้ผู้ส่งออกถือครองดอลลาร์สหรัฐนานขึ้น หรือสามารถฝากเงินในรูปดอลลาร์สหรัฐได้

ยันดูแลเงินบาทแข็งก่อนขึ้น 30 บาท

ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาท และผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมมาตรการทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา โดยจะพยายามรักษาเสถียรภาพค่าเงิน และดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่าไปถึง 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างที่มีผู้กังวล ส่วนการทำงานของ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท.นั้น เห็นว่า ผู้ว่าการ ธปท.ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถแล้ว ดังนั้น ทุกฝ่ายควรจะให้กำลังใจมากกว่าทำลายกำลังใจ เราไม่ควรโยนความรับผิดชอบไปที่คนคนเดียว ควรช่วยกันหาทางแก้ปัญหา ไม่งั้นจะไม่มีใครอยากมารับผิดชอบ เพราะมองว่าถ้ามีอะไรขึ้นมาจะถูกเหยียบย่ำซ้ำเติม" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

"รามาชูส์"ส่อเลิกจ้างหลัง"ไนกี้"ลดออเดอร์

ส่วนสถานการณ์แรงงานในขณะนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเกิดปัญหาขึ้นในกิจการโรงงานรองเท้าของบริษัท รามาชูส์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยบริษัทแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตรองเท้าให้แก่ยี่ห้อไนกี้ ซึ่งเดิมทีมีคำสั่งซื้อวันละ 2.4 หมื่นคู่ แต่ขณะนี้ไนกี้ได้ลดออเดอร์ลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงวันละ 1.2 หมื่นคู่ ทำให้มีแนวโน้มเกิดปัญหาเรื่องการจ้างงาน แต่ข้อมูลดังกล่าวยังเป็นเรื่องภายใน ซึ่งลูกจ้างยังไม่ทราบเรื่อง ข่าวแจ้งว่า บริษัทรามาชูส์ ซึ่งรับงานโดยตรงจากไนกี้ มีลูกจ้างอยู่ 4.6 พันคน นอกจากนี้บริษัทรามาชูส์ ยังว่าจ้างอีก 6 โรงงานผลิตรองเท้าให้ รวมแล้วบริษัทรามาชูส์ และเครือข่าย มีลูกจ้างรวม 6.4 พันคน

ลูกจ้างไทยศิลป์ฯทำใจปิดอีกรอบ

วันเดียวกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องแหล่งเงินกู้ที่จะเข้ามาช่วยสภาพคล่องบริษัทไทยศิลป์ฯ ผู้สื่อข่าวรายงานจากด้านหน้าบริษัทไทยศิลป์ฯ ว่า บรรยากาศทั่วไปลูกจ้างที่กลับเข้ามาทำงานตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังมั่นใจว่าจะได้รับค่าจ้างตรงตามที่เคยได้รับ มีบางรายเท่านั้นที่ไม่แน่ใจ ซึ่งครั้งนี้นายจ้างได้กำหนดจ่ายค่าจ้างลูกจ้างรายวัน วันที่ 23 กรกฎาคม ส่วนรายเดือนวันที่ 25 กรกฎาคม แต่มีรายงานว่า ลูกจ้างไทยศิลป์ฯ ลาออกไปจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งบริษัทได้แก้ปัญหาโดยรวมแผนกลูกจ้างที่เหลือน้อยเข้าด้วยกัน สำหรับลูกจ้างที่กลับเข้ามาทำงานก็ต้องการรอรับค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อน แล้วตัดสินใจอีกครั้งว่าจะอยู่ต่อไป ถ้าบริษัทยังเปิดกิจการ หรือไปหางานใหม่ ทั้งนี้ ลูกจ้างที่ยังอายุน้อยจะไม่รู้สึกกังวลมากนัก และบอกว่าถึงบริษัทปิดก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีบริษัทอื่นรอรับทำงานอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องสัมภาษณ์ถ้ารู้ว่ามาจากบริษัทไทยศิลป์ฯ มีเพียงลูกจ้างอีกจำนวนหนึ่งที่อายุมากแล้วอาจจะกลับภูมิลำเนา

กลับบ้านเกิดไปทำนา-เย็บผ้าโหล

น.ส.ประคอง พิมพ์ศรี อายุ 46 ปี ลูกจ้างบริษัทไทยศิลป์ฯ กล่าวว่า ก่อนมาทำงานที่นี่ทำงานมาแล้วหลายบริษัท เพิ่งมาอยู่ได้ปีกว่า ในที่ทำงานตอนนี้ก็ยังปกติ ไม่มีข่าวว่านายจ้างจะไม่จ่ายค่าจ้าง แต่ถ้าปิดบริษัทอีกครั้งตนคงต้องกลับบ้านใน จ.หนองบัวลำภู ไปทำนา หรือรับเย็บผ้าโหลที่บ้าน เพราะอายุมากแล้ว หางานทำลำบาก และถ้านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างก็ไม่รู้จะเรียกร้องอย่างไร

นางศุกร์ สมรภูมิ อายุ 30 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน กล่าวว่า กำลังรอค่าจ้างออก เพราะมีภาระมาก ทั้งค่าเช่าห้อง และยังต้องส่งเงินให้พ่อแม่ที่ จ.สุโขทัย และถ้าบริษัทปิดอีกคงต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้านต่างจังหวัดก่อน แล้วค่อยกลับมาหางานทำใหม่ ตอนนี้รอเงินค่าจ้างจะได้หรือไม่ ตัวเองก็ลำบากและท้องด้วย เงินเก็บก็ไม่มี มีแค่เงินที่เก็บไว้ค่าคลอดเท่านั้น และต้องรับผิดชอบทางบ้านด้วย

เครียดหนักหมอดูบอกปิดสิ้นเดือนนี้

นางนันทา บุญเพชร อายุ 33 ปี กล่าวว่า พนักงานเกิดความระส่ำระสาย เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานภาพของโรงงาน ขณะนี้ได้มีพนักงานลาออกไปหลายคน ส่วนใหญ่ได้งานที่ใหม่ทำแล้ว ส่วนที่ยังทำงานอยู่ก็ทำงานไปด้วยความไม่มั่นใจ และยังไม่ได้คิดหางานใหม่ เนื่องจากรอดูสถานการณ์ก่อน และรอลุ้นว่าเงินค่าแรงจะได้หรือไม่ ทุกวันนี้พนักงานทุกคนยังคิดกันไม่ตกว่า หากโรงงานต้องปิดตัวลงอีกครั้งจะไปหางานทำที่ไหน ต้องตกงานทั้งคู่เพราะแฟนทำงานที่เดียวกัน ทุกวันนี้ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าเทอมลูก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก หลายคนเครียดต้องไปหาหมอดูให้ทำนายว่าโรงงานจะอยู่รอดหรือไม่ หมอดูบอกว่าโรงงานอยู่ได้เพียง 2 วันพระ ก็คือ สิ้นเดือนพอดี ทำให้เครียดหนักเข้าไปอีก ไม่รู้จะไปพึ่งใคร

ด้านบุญรอด เกิดพงษ์ อายุ 39 ปี กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเครียดมากและคิดที่จะหางานที่อื่นทำแล้ว เพราะทนสภาพแบบนี้ไม่ไหว ขณะเดียวกันก็มีใบปลิวออกมาโจมตีกันภายในโรงงานว่า เจ้าของโรงงานกับพนักงานฝ่ายการเงิน ฝ่ายบัญชี และฝ่ายบุคคลรู้เห็นกัน และปิดข่าวไม่ยอมให้พนักงานที่ทำงานรู้ว่าจะมีการปิดโรงงานอีก ตอนนี้อยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยด่วน เพราะสภาพจิตใจของพนักงานตอนนี้ย่ำแย่มาก ทำงานแล้วไม่ได้เงินจะทำไปทำไม คาดว่าโรงงานคงถูกปิดตัวเป็นครั้งที่ 2 แน่ หากวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เงินเดือนไม่จ่าย พนักงานไม่ยอมแน่ ออกมาประท้วงอีกแน่นอน