Thai / English

สิ่งทอระบุปิดรง.แล้ว 200 แห่ง


ไทยรัฐ
13 .. 50
ไทยรัฐ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ทุก 1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยลดลง 0.2-0.3% จากการที่ค่าเงินบาทแข็ง คาดว่าจะทำให้รายได้จากการส่งออกต้องสูญไปช่วงครึ่งปีหลัง 10,000-20,000 ล้านบาท ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องแทรกแซง และลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% หากไม่สามารถรักษาค่าเงินบาทให้อยู่ที่ไม่เกิน 33.5 บาทได้ ก็จะเห็นสัญญาณร้ายต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจไม่ถึง 4%

“วิกฤติค่าเงินบาทอยู่ในช่วงอันตราย มีระดับเตือนภัยสีส้มเข้ม จึงต้องเร่งรักษาค่าเงินไม่ให้แข็งขึ้นอีก และออกมาตร- การสกัดการเก็งกำไร แต่หากจะออกมาตรการควบคุมเงินไม่ให้ไหลเข้าตลาดหุ้นคงทำได้ยาก เพราะตลาดหุ้นไทยยังมีผลตอบแทนต่อหุ้น (พี/อี) ต่ำ มาตรการกันสำรอง 30% ก็ไม่เหมาะสม และเกิดผลในทางจิตวิทยาระหว่างประเทศ เพราะอาจทำให้ต่างประเทศมองได้ว่า ค่าเงินบาทถูกเก็งกำไรจริง และเทขายหุ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุด ความมั่งคั่งหายไป ทำให้เกิดวิกฤติได้ง่าย”

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกสมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า คาดการณ์ตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอจะเดือดร้อนจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งมาก โดยเฉพาะรายกลางและเล็ก จากสถิติสถาบันสิ่งทอพบว่า ตั้งแต่ต้นปี ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ปิดกิจการแล้วเกือบ 200 ราย หากเงินบาทยังแข็งค่าต่อไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะปิดกิจการอีกจำนวนมาก และแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 1.06 ล้านคน จะได้รับความเดือดร้อน

ขณะที่นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า สินค้าเกษตรที่ใช้วัตถุดิบในประเทศจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยคาดว่าผู้ส่งออกข้าวรายเล็กขาดทุนจากการส่งออกและปิดกิจการไปแล้วจำนวนมาก เพราะราคาข้าวไทยสูงขึ้นมาก โดยข้าวขาว 100% ตันละ 350 เหรียญ จากต้นปีตันละ 310 เหรียญ ข้าวหอมมะลิตันละ 610-620 เหรียญ จาก 510 เหรียญ จึงคาดว่าการส่งออกข้าวไทยปีนี้น่าจะได้เพียง 8 ล้านตัน มูลค่า 100,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 8.5 ล้านตัน มูลค่า 120,000 ล้านบาท หรือสูญเสียรายได้จากการส่งออก 20,000 ล้านบาท.