Thai / English

TLC เปิดเผยรายงานสถานการณ์แรงงานไทยในต่างประเทศ ปี 2551

โปรย/โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย (Thai Labour Campaign: TLC) เปิดเผยรายงาน “สรุปสถานการณ์ประจำปี 2551 แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศ” พบแรงงานจากภาคอีสานถูกหลอกให้ไปทำงานต่างแดนเป็นอันดับหนึ่ง บางรายเสียชีวิต และกลับมามีหนี้สินติดตัวมากกว่าเดิม


TLC เปิดเผยรายงานสถานการณ์แรงงานไทยในต่างประเทศ ปี 2551

20 .. 52 – โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย (Thai Labour Campaign: TLC) เปิดเผยรายงาน “สรุปสถานการณ์ประจำปี 2551 แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศ” พบแรงงานจากภาคอีสานถูกหลอกให้ไปทำงานต่างแดนเป็นอันดับหนึ่ง บางรายเสียชีวิต และกลับมามีหนี้สินติดตัวมากกว่าเดิม

ส่วนภาพรวมปัญหาของแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ปัญหาจากบริษัทจัดหาแรงงานคือแรงงานจะต้องใช้เงินสูงซึ่งส่วนใหญ่แรงงานไม่มีเงินทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และไม่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้ เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จึงต้องกู้เงินนอกระบบ ทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินควร และถูกเอารัดเอาเปรียบจากเงื่อนไขในสัญญากู้ ส่วนผู้ที่ไม่สามารถกู้ยืมเงินได้ก็ขาดโอกาสที่จะได้เดินทางไปทำงาน และยังพบปัญหาการหักหัวคิวในสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรมกับแรงงานของบริษัทจัดหาแรงงาน

รวมถึงปัญหาเมื่อไปถึงประเทศปลายทางแล้วมักจะเจอปัญหาเกี่ยวกับข้อกฎหมายและนโยบายกีดกันในประเทศนั้นๆ, ปัญหาการกดขี่และละเมิดสิทธิจากนายจ้าง และเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยแล้วยังต้องเผชิญกับภาวะหนี้สินและไม่มีงานรองรับ

ทั้งนี้โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย ได้ให้การสนับสนุนและจัดตั้ง เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการการไปทำงานต่างประเทศ (Net Work against Exploitation & Trafficking of Migrant Workers: NAT) โดยได้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550 และได้เปิดรับสมาชิกเครือข่ายตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นมา ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2551 เครือข่ายได้รับการสนับสนุนจากโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย ได้ดำเนินการให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ ผู้ที่ถูกเลิกจ้างและหรือถูกส่งกำหนดโดยไม่ได้รับค่าเสียหาย

โดยเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา TLC และ NAT ได้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศหลายกรณี ดังเช่น

ช่วยเหลือกรณีของนายถวิล พานโน วันที่ 28 ก.พ. 51 ได้เข้าไปช่วยเหลือนายถวิล พานโน ซึ่งเป็นคนงานไทยคนหนึ่งที่ไปทำงานในประเทศไต้หวัน โดยงานที่เขาไปทำนั้นไม่ตรงกับสัญญาจ้างที่ทางบริษัทจัดหางานระบุไว้ จากนั้นถวิลเดินทางกลับมาประเทศไทยเพราะว่าพี่ชายเสียชีวิต แต่พองานศพเสร็จ ถวิลก็ไม่กล้ากลับไปทำงานยังต่างประเทศอีก เพราะกลัวว่า เมื่อไปแล้วจะโดนหัก ค่าหัวอีก และโดนหักอีกหลายอย่าง เงินเดือนที่ได้จากการไปทำงานก็ไม่คุ้ม ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ จึงได้แนะนำให้ถวิลไปร้องทุกข์ที่กระทรวงแรงงานจังหวัด และสามารถต่อสู้จนได้ค่าชดเชยจากทางบริษัทจัดหางาน เป็นเงินสามหมื่นบาท

ช่วยเหลือกรณีของนายบำเพ็ญ บุดดา วันที่ 6 มิ.ย. 51 ได้ทำการรู้จักกับ นายบำเพ็ญ บุดดา โดยนายบำเพ็ญ ได้ทำงานในต่างประเทศโดยทำงานที่ประเทศไต้หวัน โดยทำงานเป็นเวลา 1 ปี กับอีก 8 เดือน โดยนาย บำเพ็ญ ได้รับอุบัติเหตุจากการตกนั่งร้าน ซี่โครงหัก โดยได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ไต้หวันได้หนึ่งอาทิตย์ เขาก็ถูกส่งตัวกลับ เป็นเวลาเกือบสองปีแล้ว ตั้งแต่ที่ บำเพ็ญ กลับมาโดยไม่มีการฟ้องร้อง หรือร้องทุกข์อะไรเลย ทางด้านบริษัทจัดหางานได้ช่วยให้เขาได้คุยกับทางเอเย่นต์ ที่ไต้หวันและคุยกันจนเข้าใจ จนเวลาผ่านไป ทาง นาย บำเพ็ญ ก็ได้ทำการตกลงกับบริษัทจัดหางาน

ช่วยเหลือกรณีของนายสรยา พิมพ์ทองมา ซึ่งเป็นแรงงานไทยอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยทางเครือข่ายฯ ทำการช่วยเหลือนายสรยา โดยการแนะนำ ให้ นายสรยา ไปร้องทุกข์ ที่แรงงานจังหวัดขอนแก่น แต่ทางกระทรวงแรงงานก็ได้ แนะนำให้ไปร้องทุกข์ที่แรงงานจังหวัดและในที่สุดนายสุริยาก็ได้ประสบความสำเร็จ โดยนายสรยาได้รับเงินคืนทั้งหมด

ช่วยเหลือกรณีของนายสมชาย กินรี โดยนายสมชายได้ไปทำงานที่ประเทศ นิวซีแลนด์ ซึ่งได้เสียค่าหัวคิวเพื่อที่จะไปทำงานแต่ว่ายังไม่ได้เดินทางตั้งแต่ปี 2550  จากนั้นทางบริษัทจัดหางานได้บอกกับนายสมชายว่าจะให้ไปทำงานที่ ประเทศ แคนาดาแทน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปี 2551 นาย สมชาย ก็ไม่ได้ไปอีก จนถึงขณะนี้ นายสมชาย ก็ยังไม่ได้ไปทำงานยังต่างประเทศเลยไม่ว่าจะเป็นนิวซีแลนด์หรือ แคนาดา นายสมชายต้องเสียค่าหัวทั้งหมดเป็นเงิน 150,000 บาท ทางบริษัทจัดหางาน บอกกับนายสมชายว่าจะคืนเงินให้ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววเลย

ช่วยเหลือกรณีของนางมยุรี เก่งเกตุ ซึ่งได้แจ้งต่อเครือข่ายฯ ว่ามีน้องชาย ไปทำงานที่ประเทศไต้หวันได้ 1 ปี กับ 5 เดือน และน้องชายได้หายสาบศูนย์ ไป ช่วงวันที่ 5 ธ.ค. 50 แต่พอ เช้าวันที่ 6 ธ.. 50 ทางเอเย่นต์บอกว่าจะส่งตัวน้องชายเขากลับ ในวันที่ 10 แต่ก็ ไม่เห็นว่า น้องชาย ของเขาจะกลับมา ทำให้นาง มยุรี ต้องเดินทาง ไปตามหาที่ ประเทศใต้หวั่น แต่ก็ไม่พบอีก และได้เดิน ทางกลับ มาร้องทุกข์ ที่กระทรวง รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบน้องชายของเขาเลย

ช่วยเหลือกรณีของนายสายันต์ มาตรา สายันต์ได้ไปทำงานที่ ประเทศการ์ตาแต่พอ ไปถึงก็ถูกเจ้าหน้าที่ของประเทศการ์ตาจับกุมตัวไปขังคุก จนเวลาผ่านไป 3 เดือน นาย สายันต์ ก็ถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย กับเพื่อนทั้งหมดอีก 30 คน จึงเข้าแจ้งความ แต่ว่าไม่แจ้งกับบริษัท จัดหางาน การเดินทางไปทำงานครั้งนี้ นาย สายันต์ ต้องเสียทั้งนา และรถ โดยค่าหัวที่ เขาเสียไปเป็นเงิน ทั้งหมด 800,000 บาทโดยที่นาย สายันต์ ไม่ได้อะไรคืน จากบริษัทจัดหางานเลย ทุกวันนี้ นายสายันต์ ต้องทำงาน ปลูกผักปลอดสารพิษ ทำนา โดยไม่กล้าที่จะไปทำงานยังต่างประเทศไหนอีกเลย

ช่วยเหลือกรณีของนางสุเนตร ผลประเสริฐ สุเนตรเป็นอีกคนที่ได้ไปทำงานในประเทศฮ่องกง ปัญหาที่สุเนตรพบนั้นก็คือนายจ้างกดขี่ โดยการทำงานของสุเนตรต้องตื่นนอนแต่เช้า ทำงานบ้านทุกอย่างและดูแลลูกของนายจ้างด้วย แต่นายจ้างก็ยังไม่พอใจและถูกนายจ้างด่าทอว่ากล่าวทุกวัน จนในที่สุดสุเนตรก็ทนไม่ไหวจึงได้ขอกลับประเทศไทย

ช่วยเหลือกรณีของนางอุทัย ผลประเสริฐ อุทัยเป็นอีกคนที่ทำงานอยู่ในประเทศฮ่องกง ทางเครือข่ายฯ ของเราได้ไปพบกับอุทัยตอนเดินทางกลับมาจากฮ่องกง เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 51 เขาพูดให้ฟังว่าการทำงานเป็นแม่บ้านที่ ฮ่องกงลำบากมากเลย นายจ้าง ต้องใช้งานตั้งแต่เที่ยงวัน ยันเที่ยงคืน ต้องรอเปิดประตูให้ลูกชาย และลูกสาว ของนายจ้างทั้งคืน นอกจากภาระทั้งหมดนี้แล้ว เธอต้องดูแลคนแก่อีก อุทัยบอกกับทางเครือข่ายว่าทั้งเหนื่อยทั้งลำบากแต่อุทัย ก็ทนทำงานที่นั่น ได้ 7-8 เดือน จนในที่สุดเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ 20 ก.พ. เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับอุทัย เมื่อลูกสาวนายจ้างได้ทำร้ายร่างกายเธอ โดยการจิกหัวด่าแล้วก็บอกว่าให้กลับประเทศไทย อุทัยจึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศไทยในที่สุด

ช่วยเหลือกรณีของนายเสนี กำเนิดคูณ เสนีได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยการไปทำงานครั้งนี้นายเสนีได้ถูกน้าชายของภรรยาตนเองแนะนำไป โดยบอกว่าถ้าไปทำงานที่โน่น อาจจะมีเงินเก็บเงินใช้กว่านี้ นายเสนีไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เพราะว่าตัวเองก็ต้องการสร้างครอบครัวให้มีความสุข แต่ก่อนที่นาย เสนี จะไปทำงานยังต่างประเทศนาย เสนี ก็มีงานประจำทำอยู่แล้ว คือทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในตัวอำเภอกับศรีภรรยา ของตัวเอง แต่เพราะอยากจะมีเงินเก็บกว่านี้ ถึงได้ตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เสนี ทำงานอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ปี กว่า นายเสนีก็มีอาการป่วยเกิดขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปนายเสนี เป็นคนแข็งแรงนาย เสนี เริ่มป่วยหนักขึ้นแต่ว่าตัวเองก็ยังไม่ยอมบอกทางบ้าน เพราะว่าก็ทางบ้านจะเป็นห่วง จนในที่สุดนาย เสนี ก็ต้องได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ที่ อิสราเอล แต่ขบวนการรักษาเป็นไปได้อยาก เพราะว่านายเสนีไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาที่โน่นเลยจนทำให้นาย เสนี ตัดสินใจขอเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย โดยนายเสนียินยอมกลับทางบริษัทว่าจะไม่ฟ้องรองอะไรกลับทางบริษัทเลย เมือเดินทางกลับมาถึง พอมาถึงประเทศไทย นายเสนี ก็ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ขอนแก่น พอเข้า มารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่นาน ทางโรงพยาบาลก็ได้บอกกับทางนาย เสนีว่าเขาเป็นโรคไตวายนาย เสนีรักษาตัวอยู่ ไม่นานก็มาเสีย ชีวิตลง ทางเครือข่ายของเราก็ไม่นิ่งเฉยได้ทำการพาภรรยาของนายเสนี ไปฟ้องร้องที่กระทรวงแรงงานตลอดเวลาตอนที่ นายเสนี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่ เพราะว่านาย เสนี ได้ทำการเซ็นเอกสารสำคัญไว้แล้ว ว่าเมือเดินทางกลับมายังประเทศไทยจะไม่เอาความไดๆทั้งสิ้น กับทางบริษัท จัดหางาน ทางเราจึงได้แต่รอความยุติธรรมเท่านั้น ต่อมาทางกระทรวงก็บอกให้ภรรยาของ นาย เสนี ไปรับค่าทำศพเป็นเงินเล็กน้อยทุกคนก็พอใจกับสิ่งที่ได้รับเงินจำนวนนั้นและก็ได้นำเงินมาเป็นค่าทำศพต่อไป

นอกจากนี้ TLC และ NAT ยังเดินสายตระเวนไปยัง บ้านคำหญ้าแดง อ. .ขอนแก่น, บ้านหนองผีเสื้อ อ. .ขอนแก่น, บ้านนาฝาย อ. .ขอนแก่น, บ่อแก จ.ขอนแก่น, บ้านหนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, บ้านหนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, บ้านหนองขาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และที่อื่นๆ เพื่อแนะนำและให้การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศ

รวมถึงการจัดกิจกรรมหนังแรงงานนานาชาติที่ลานวัดราชบุรี อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ในคืนวันที่ 16 ธันวาคม 2551 และที่ลานบ้านคำหญ้าแดง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ในคืนวันที่ 17 ธันวาคม 2551 โดยจะมีการนำเสนอสารคดีเกี่ยวกับชีวิตแรงงานที่ไปขายแรงงานต่างประเทศ และแรงงานต่างชาติในประเทศไทยด้วย และมีจัดการประชุมใหญ่เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานต่างประเทศในวันที่ 18 ธันวาคม 2551 ที่วัดสุนทรสมุทร บ้านคำหญ้าแดง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ทั้งนี้จากการประชุมได้มีการให้ความรู้ในเรื่องผลกระทบ, โอกาส และอุปสรรคจากการไปทำงานต่างประเทศ รวมทั้งได้มีการขยายเครือข่ายพร้อมทั้งเลือกตั้งผู้ปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่